จากสถานการณ์น้ำท่วมหนักใน อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ที่ยืดเยื้อมาเกือบ 1 เดือน ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนบ้านเรือนจมอยู่ใต้น้ำจำนวน 3,158 หลังคาเรือน โดยเฉพาะที่ชุมชนวัดมะปราง หมู่ที่ 5 ต.โพนางดำออก ที่โรงเรียนวัดมะปราง โรงเรียนที่เปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาลไปจนถึง ป.6 มีกำหนดเปิดภาคเรียนในวันที่ 1 พฤศจิกาจนนี้ มีความจำเป็นต้องเลื่อนออกไป เพราะปัจจุบันอาคารเรียนและสถานที่ของโรงเรียนยังคงมีน้ำท่วมขังสูงกว่า 60 ซ.ม.บางจุดลึกกว่า 1 เมตร เพื่อความปลอดภัยของเด็กๆที่จะมาเรียน โดยจะเลื่อนการเปิดเรียนออกไปอีก 7 วัน เพื่อรอให้ระดับน้ำลดลงไปสู่สถานการณ์ปกติ
นางอรอนงค์ ภูยาธร ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดมะปรางเปิดเผยว่า ในส่วนของเด็กเล็กจนถึงชั้น ป.5 ทางโรงเรียนจำเป็นต้องให้หยุดเรียนต่อไปอีก 7 วัน หรือจนกว่าน้ำจะลด แต่ในส่วนของนักเรียนชั้น ป.6 ที่จะต้องเตรียมตัวไปสอบแข่งขันเข้าเรียนต่อในชั้นมัธยมศึกษา ทางโรงเรียนจะใช้อาคารเอนกประสงค์ของหมู่บ้านที่น้ำท่วมไม่ถึง เป็นห้องเรียนชั่วคราว สอนพิเศษเพื่อให้เด็กมีความพร้อมที่จะไปสอบแข่งขัน โดยไม่เสียโอกาส ซึ่งนอกจากโรงเรียนวัดมะปรางแล้ว ยังมีโรงเรียนวัดสมอที่อยู่ห่างกันออกไปประมาณ 1ก.ม.ก็ถูกน้ำท่วมต้องเลื่อนวันเปิดเทอมออกไป 7วันด้วยเช่นกัน
ที่จังหวัดอุบลราชธานี คืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยคุณธรรม 1669 ร่วมกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิจีตัมเกาะ นำเรือท้องแบนออกไปตรวจสอบบ้านที่ถูกน้ำท่วม บริเวณชุมชนวังแดง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี หลังรับแจ้งจากญาติว่ามีนายสมบูรณ์ พรมป้อง อายุ 71 ปี ได้พายเรือไปดูบ้านที่ถูกน้ำท่วมตั้งแต่เช้ายังไม่กลับมา เมื่อเจ้าหน้าที่นำเรือท้องแบนเดินทางไปถึงพบนายสมบูรณ์ นอนป่วย มีอาการอาเจียน ถ่ายท้อง เหนื่อย อ่อนเพลีย ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ อยู่ภายในบ้านที่ถูกน้ำท่วม เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำขึ้นเรือมาด้วยความยากลำบาก พร้อมประสานรถพยาบาลจากโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์อุบลราชธานี มารับตัวไปทำการรักษา ท่ามกลางชาวบ้านที่มารอดูเหตุการณ์พร้อมชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่กู้ภัยคุณธรรม 1669 และเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิจีตัมเกาะ
ด้านพล.เอก.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะ คสช. พร้อมคณะลงพื้นที่ จังหวัดขอนแก่น เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมของจังหวัดขอนแก่น หลังพบว่ายังมีหลายพื้นที่ได้รับความ เดือดร้อน โดยเฉพาะที่บริเวณคันคลองชลประทาน 3L บ้านคุยโพธิ์ ตำบลบึงเนียม อำเภอเมือง จังหวัด ขอนแก่น ซึ่งเป็นจุดที่คันดินพังระยะทางยาวกว่า 30 เมตร เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา ทำให้ทางกรมชลประทาน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหาร พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งซ่อมแซมเป็นการด่วน เพราะมีน้ำไหลเข้าพื้นที่ทางการเกษตรกว่า 5,000 ไร่ โดยได้มีการนำแผ่นชีสไพน์ ขนาดกว้าง 40 ซม. ยาว 6 เมตร จำนวน 200 แผ่น ปักลงไปเป็นแนวความลึกประมาณ 4 เมตร แล้วนำกล่องแกเบียน ซึ่งเป็นลวดตาข่าย บรรจุหินลงไป เพื่อใช้ยึดเหนี่ยววัสดุที่ถมทับลงมาจากด้านบนอีก
สำหรับกล่องแกเบียนมีขนาด กว้าง 1 เมตร ยาว 2 เมตร และ สูง 0.5 เมตร ใช้จำนวนประมาณ 3,000 – 3,500 กล่อง และนำไปหย่อนลงตามแนว แล้วใช้รถแบล็คโฮบด ซึ่งขณะนี้สามารถปิดช่องที่ขาดได้เรียบร้อยเมื่อวานที่ผ่านมา
จากนั้น พล.เอก.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เดินทาง ที่บ้านบึงสวาง หมู่ที่ 5 ตำบลบึงเนียม อำเภอเมืองขอนแก่น เพื่อพบปะประชาชนที่ประสบอุทกภัยของตำบลบึงบึงเนียม พร้อมมอบถุงยังชีพ จำนวนมากให้กับประชาชน
นายกรัฐมนตรีได้สั่งการในที่ประชุมให้ลดการระบายน้ำ เขื่อนอุบลรัตน์จากวันละ 38 ล้านลูกบาศก์เมตร ให้เหลือ 30 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยให้มีผลทันที เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในพื้นที่ท้ายน้ำ และฝากให้ผู้นำชุมชนเร่งสำรวจพื้นที่ความเสียหาย และจำนวนประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน เพื่อจะได้ให้ความช่วยเหลือต่อไป
