เปิดใจ “มารีญา” เผยรู้สึกอิ่มใจ-อบอุ่น ขอเซลฟี่คนไทยรุมต้อนรับแน่นสุวรรณภูมิ (คลิป)

เวลา 23.50 น. วันที่ 10 ธ.ค. ที่อาคารผู้โดยสารชั้น 2 ประตู 9 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มารีญา พูลเลิศลาภ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017 เดินทางกลับถึงประเทศไทยด้วยสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ JL 707 หลังเสร็จสิ้นภารกิจเป็นตัวแทนประเทศไทยไปประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2017 ที่เมืองลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยด้วยการเข้าสู่รอบ 5 คนสุดท้ายในรอบ 29 ปี และเป็นสาวงามจากเอเชียเพียงคนเดียวในรอบ 5 คนสุดท้าย

ในการนี้ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงพระกรุณาโปรดให้ ม.ล.ทรงลักษณ์ สวัสดิวัตน์ เป็นผู้แทนพระองค์เชิญช่อดอกไม้ประทานให้มารีญา พูลเลิศลาภ

โดยมีนางฉฎาณิศา ชำนาญเวช รองผู้อำนวยการการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายปฏิบัติการ 2) ร่วมต้อนรับ พร้อมมอบดอกไม้ รวมถึงนางสุรางค์ เปรมปรีดิ์ ผู้อำนวยการกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ และนางชิชญาสุ์ กรรณสูต ผู้จัดการกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการต้อนรับเป็นไปด้วยความคึกคัก แฟนนางงามจำนวนมากต่างมาร่วมต้อนรับมารีญาโดยรอบบริเวณอาคารผู้โดยสารชั้น 3 เมื่อมารีญามาถึงมีการโบกธงชาติไทยพร้อมชูภาพมารีญาและส่งเสียงต้อนรับดังไปทั่วบริเวณ โดยมีคุณแม่ชนกสรวง พูลเลิศลาภ ร่วมต้อนรับอย่างอบอุ่น มารีญาโบกมือทักทายไหว้ขอบคุณแฟนคลับพร้อมรอยยิ้มที่สดใส

จากนั้นมารีญาขึ้นกล่าวเปิดใจและให้สัมภาษณ์บนเวที โดยมารีญากล่าวขอบพระทัยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ที่ประทานดอกไม้และทรงสนับสนุนมารีญา นับเป็นมงคลสูงสุดของมารีญา ก่อนกล่าวขอบคุณพี่ๆ สื่อมวลชน และแฟนคลับทุกคน

Advertisement

มารีญากล่าวว่า “ตั้งแต่มารีญาได้ตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ มารีญารู้สึกถึงความรัก ความอบอุ่นของทุกคน สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทำให้มารีญาทำงานหนักขึ้น ผลักดันให้ตื่นขึ้นมาสู้ใหม่และทำให้เต็มที่ ครั้งนี้กลับมารู้สึกถึงความรักของทุกคนและใกล้ชิดกับเมืองไทยมากขึ้น ซึ่งเป็นเป้าหมายของมารีญาที่อยากทำให้คนไทยมีความสุข รู้สึกถึงความอบอุ่นและทุกอย่างที่พี่ทุกคนทำให้มารีญา ยิ่งทำให้มารีญาอยากทำทุกอย่างให้เต็มที่เพื่อให้คนไทยมีความสุขจริงๆ ตอนที่ลงมาจากเครื่องมีแฟนคลับเกาหลีญี่ปุ่นเข้ามาทักทาย น่ารักและอบอุ่นมาก ขอบคุณทุกท่านที่สนันสนุนมารีญามาตลอด”

มารีญาเผยถึงการเข้าสู่รอบท็อป 5 ว่า รู้สึกว่าการประกวดต้องเป็นตัวของตัวเอง ทำเต็มที่และภูมิใจมากๆ ในตัวเอง เมื่อลงจากเวทีรู้สึกผิดหวังนิดหนึ่ง เพราะทุกคนหวังว่าเราจะได้ที่หนึ่ง แต่เมื่อได้ท็อป 5 ก็รู้สึกว่านี่คือช่องทางของเรา เป็นเวลาของเรา กลับมาเมืองไทยเราสามารถทำสิ่งที่ตั้งเป้าหมายไว้ได้เร็วขึ้น ทำให้คนไทยได้เต็มที่ รู้สึกดีใจมาก

ต่อข้อถามว่าในรอบตอบคำถามเพื่อเข้าสู่รอบ 3 คนสุดท้ายรู้สึกกดดันหรือไม่ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์กล่าวว่า “พอได้ยินคำถาม มารีญารู้สึกอึ้งเหมือนกันค่ะ ผ่านไป 2-3 วันยังรู้สึกอึ้งกับคำถามนี้ แต่คิดได้แล้วว่าทำไมเราอึ้งกับคำถามนี้ เพราะเขาถามเกี่ยวกับโซเชียลมูฟเมนต์ในยุคของมารีญา การที่เราไม่สามารถตอบได้ในแบบที่คนอาจคาดหวัง อาจเป็นเพราะเราขาดโซเชียลมูฟเมนต์อันหนึ่ง เราขาดในยุคของเรา อยากทำทุกอย่างให้เต็มที่ อยากขับเคลื่อนโซเชียลมูฟเมนต์เกี่ยวกับปัญหาการท้องก่อนวัยอันควร อยากทำให้คนหันมาฟังด้านนี้ ลงทุนในด้านนี้ ลงทุนกับเยาวชน ลงทุนในการศึกษา รู้จักเคารพตนเองและเคารพคนอื่น จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องท้องก่อนวัยอันควร เป็นสิ่งที่ตั้งใจอยากจะทำ”

มารีญาเผยความรู้สึกด้วยว่า ที่ลงจากเวทีแล้วร้องไห้ เพราะรู้ว่าคนไทยคาดหวังว่าเราคงได้มงกุฎมิสยูนิเวิร์สที่ 3 แต่มารีญาจะทำอย่างอื่นให้คนไทยมีความสุข ขอบคุณแฮชแท็กที่ว่า “มงไม่ลงยังคงรักเธอ” มารีญารู้สึกอบอุ่นและยิ่งรักคนไทย มารีญารักคนไทยอยู่แล้วและรักมากกว่าเดิม ชอบแฮชแท็กนี้ ขอบคุณคนที่ตั้งแฮชแท็กนี้มากค่ะ บนเวทีไม่รู้สึกว่าเราทำอะไรผิด เพราะทำเต็มที่ เป็นตัวของตัวเอง เราขึ้นไปท็อป 5 ได้เพราะเป็นตัวของตัวเองและทำเต็มที่ เสียใจที่ทำไม่ได้ตามที่คาดหวัง แต่เมื่อมาคิดอีกทีก็รู้สึกดีใจที่เราทำได้ขนาดนี้

ส่วนเรื่องชุดราตรีในรอบสุดท้ายที่มีกระแสว่าทำให้มารีญาไม่มั่นใจ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์กล่าวว่า มารีญามั่นใจในตัวเองตอนอยู่บนเวทีตลอดเวลา ดราม่าอะไรที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของคนที่พูดคุยซึ่งไม่ได้อยู่บนเวที ได้ยินเรื่องชุดบ้างรู้สึกหนักใจเหมือนกัน อยากให้ทุกคนได้ดูและแฮปปี้กันทุกคน ดีใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น อยากให้กำลังใจพี่หมูอาซาว่า และพี่โจ้ เซอร์เฟซ สองดีไซเนอร์ ซึ่งสนับสนุนและให้กำลังใจมารีญามาตั้งแต่แรก สำหรับเรื่องที่มารีญามีพูดผิดบ้างนั้น บางเรื่องคนมักจับอะไรที่เราผิดเล็กๆ น้อยๆ มาพูด เราต้องไม่เศร้าและเติบโต ให้ขำไปก็จะดีขึ้น ทุกคนจะมีมุมมองไม่เหมือนกัน เป็นเรื่องปกติ แค่ปล่อยให้ผ่านไปและปล่อยวาง

“หลังการประกวดเสร็จสิ้นเกิดความรู้สึกหลายอย่างมาก เป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มาก ตอนนั้นพูดแล้วก็น้ำตาออกมาเลย รู้สึกคนไทยเชียร์เต็มที่และหวังอะไรสักอย่าง แต่เราทำไม่ได้อย่างนั้นก็รู้สึกเศร้า หลังจากได้พักผ่อนตอนนี้กำลังใจกลับมาเต็มที่ ก้าวต่อไปของมารีญารู้สึกว่ามีคนจะฟังมารีญามากขึ้น มารีญามีเวทีที่ยิ่งใหญ่มาก ตอนนี้อยากรวมพลังของทุกคนมาช่วยมารีญาในเรื่องการแก้ปัญหาท้องก่อนวัยอันควร เป้าหมายที่สิ้นสุดของมารีญาคือโครงการนี้ กลับมามารีญาจะได้ทำทุกอย่างเพื่อไปถึงเป้าหมายนี้ได้เร็วยิ่งขึ้น จะทำหน้าที่มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์เต็มที่”

ต่อข้อถามว่าในวันที่ 12 ธ.ค.นี้ จะได้พบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เตรียมคำพูดอย่างไรบ้าง มารีญายิ้มก่อนกล่าวว่า “มารีญาคิดหลายรอบเหมือนกันค่ะ มีหลายอย่างที่มารีญาจะพูดคุยด้วย หลังจากนี้จะทำหน้าที่มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ให้เต็มที่ วันอังคารนี้จะได้พบนายกฯ นับเป็นเกียรติที่ยิ่งใหญ่ เป็นเวทีที่มารีญาจะมีเสียงดังขึ้น ต่างชาติจะรู้จักประเทศไทยมากขึ้น เป็นอะไรที่ตื่นเต้นมาก อยากให้ทุกคนรอติดตาม”

สำหรับการวางแผนชีวิตในวงการบันเทิง มารีญากล่าวว่า ตั้งแต่อายุ 13 ปี มารีญาทำงานเป็นนางแบบ เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย คิดว่าจะอยู่ในวงการบันเทิงได้ตลอด แต่จะโฟกัสไปที่โครงการของมารีญา คิดว่าทำทั้งสองอย่างไปพร้อมกันได้

ผู้สื่อข่าวถามว่าการได้เข้าถึงรอบท็อป 5 คิดว่านางงามจากประเทศไทยควรเตรียมอะไรเพื่อไปสู้ในการประกวดปีต่อไป มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017 กล่าวว่า เราต้องโฟกัสไปที่ความรู้ในการตอบคำถามมากขึ้น เราต้องรู้หลายอย่างในโลกนี้ ต้องตอบได้ไม่ว่าเขาถามอะไรต้องตอบในเชิงบวก ต้องฝึกตรงนี้มากขึ้น ตรงอื่นไม่สำคัญมาก เราต้องมั่นใจในตัวเอง การที่เรารู้ทุกอย่างพร้อมถึงจะมั่นใจได้ ตรงนี้คือสิ่งสำคัญที่สุด

ในตอนท้ายมารีญากล่าวขอบคุณชาวไทยว่า “มารีญาขอบคุณพี่ๆ น้องๆ ทุกคนที่สนับสนุนมารีญา มีแรงเชียร์ดังมาก ทั้งที่ลงโพสต์ ที่เขียนโพสต์ และส่งกำลังใจทั้งทางคลิปและพูดคุย ไปทางไหนทุกคนยิ้มแย้มสดใส ทำให้มารีญาสดใส รู้สึกมีความรัก อิ่ม ขอบคุณที่ทำให้มารีญารู้สึกอิ่ม ขอบคุณมากค่ะ” จากนั้นมารีญาขอถ่ายรูปเซลฟี่กับทุกคนที่มาต้อนรับ ก่อนจะโพสต์ท่าสวยๆ ให้ช่างภาพสื่อมวลชน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image