ค่ารักษาพยาบาลอาจทำให้ล้มละลายได้
ในการรักษาพยาบาลนั้น สิ่งที่ผู้ป่วยกังวลที่สุดไม่ได้มีแต่เรื่องของการหายจากโรคที่กำลังรักษาเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของค่าใช้จ่ายที่ไม่อาจคาดเดาได้ เพราะการรักษาพยาบาลนั้นแปรผันตามความรุนแรงของอาการเจ็บป่วย และระยะเวลาที่เข้าทำการรักษา ซึ่งนี่ยังไม่รวมค่าบริการทางการแพทย์ของแต่ละโรงพยาบาลอีก แค่กำลังคิดว่าตัวเองจะต้องเข้ารับการรักษาและนอนค้างคืนนานๆ หลายๆ คนก็อาจจะเริ่มรู้สึกจับไข้ได้ ซึ่งเราควรศึกษาต่อว่า ประกันสุขภาพและประกันชีวิตมีความจำเป็นแค่ไหน?
หมดตัวก็ยอม ขอแค่คนที่เรารักหายหากอาการเจ็บป่วยที่กำลังเผชิญ
เราจะเคยเห็นตามพาดหัวข่าวกันอยู่บ่อยๆ ว่า
- มีการจำนองทรัพย์สิน เพื่อนำมารักษาคนในครอบครัว
- เมื่อรักษานานวันเข้า นอกจากตัวผู้ป่วยที่ขาดรายได้ คนดูแลในครอบครัวก็ต้องการขาดรายได้เช่นกัน เพราะต้องทุ่มเทเวลามาดูแล จนไม่สะดวกที่จะทำงานอย่างต่อเนื่อง
- เกิดการขายรายได้ภายในครอบครัว เงินออมร่อยหรอ และกระแสเงินสดที่ไหลเข้ามาขาดช่วง ซึ่งเมื่อเกิดวงจรนี้ขึ้นมา การขายหรือจำนองทรัพย์สินที่ถือครองอยู่ จึงเป็นทางเลือกที่คนในครอบครัวของผู้ป่วยต้องกัดฟันจำยอม เพื่อหาค่ารักษามาให้ได้
สิทธิพื้นฐานในการเข้ารับการรักษาของคนไทย (โดยรัฐบาล)
การไปหาหมอและการเข้ารับการรักษานั้นอาจจะดูน่ากลัว แต่เพื่อเป็นการทราบสิทธิที่ตัวเองควรจะได้รับ เราจึงควรรู้แต่เนิ่นๆ ว่า สิทธิต่างๆ นั้นมีอะไรบ้าง และเราเข้าข่ายได้รับการรักษาจากสิทธิ์ไหน
- สิทธิสวัสดิการการรักษาพยาบาลของข้าราชการ คุ้มครองบริการรักษาพยาบาลให้กับข้าราชการและบุคคลในครอบครัว ได้แก่ บิดา มารดา คู่สมรส และบุตรที่ถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อเจ็บป่วยสามารถเข้ารับบริการรักษาพยาบาลได้ที่โรงพยาบาลของรัฐได้
- สิทธิประกันสังคม คุ้มครองบริการรักษาพยาบาลให้กับผู้ประกันตนตามสิทธิ สามารถเข้ารับบริการรักษาพยาบาลได้ที่โรงพยาบาลที่เลือกลงทะเบียน ในส่วนนี้สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม ทำหน้าที่ดูแล
- สิทธิหลักประกันสุขภาพ 30 บาท คุ้มครองบุคคลที่เป็นคนไทยมีเลขประจำตัวประชาชน ที่ไม่ได้รับสิทธิสวัสดิการข้าราชการ หรือ สิทธิประกันสังคม หรือสิทธิสวัสดิการรัฐวิสาหกิจ หรือสิทธิอื่น ๆ จากรัฐ ปัจจุบันมีผู้ใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพจำนวนกว่า 48 ล้านคน
สิทธิต่างๆ เหล่านี้เข้ารับการรักษาได้ที่ไหน ปัญหาที่ซ่อนตัวอยู่ในสิทธิ์นี้คืออะไร
สิทธิ 3 กลุ่มใหญ่ที่กล่าวมาข้าวต้น เราจะได้รับเฉพาะโรงพยาบาลที่เลือกไว้ในเขตที่อยู่อาศัยของตนเอง แต่เราสามารถขอเปลี่ยนโรงพยาบาลได้ไม่เกิน 4 ครั้งต่อปี ซึ่งในส่วนนี้คือข้อจำกัดหลัก หากเกิดการเจ็บป่วย หรืออุบัติเหตุร้ายแรงในต่างพื้นที่ หรือไม่ได้รับการรักษาพยาบาลจากโรงพยาบาลที่เราเลือกไว้ ก็จะมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เพิ่มขึ้นตามมา ก่อนจะถูกส่งตัวไปรับการรักษาจากโรงพยาบาลแหล่งประจำของเรา ที่ถูกระบุอยู่ในสิทธิดังกล่าว
สิทธิขั้นพื้นฐานครอบคลุมการเจ็บป่วย หรือโรคร้ายอะไรบ้าง
หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ให้บริการที่ครอบคลุมเรื่องสุขภาพต่างๆดังต่อไปนี้
- สร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค (วางแผนมีลูก / ฝากครรภ์ / ฉีดวัคซีน / ตรวจร่างกาย)
- คลอดบุตร
- ทันตกรรม
- ตรวจ / วินิจฉัย / รักษาโรค
- ค่ายาและเวชภัณฑ์
- ค่าอาหารและห้องสามัญ
- การจัดการส่งต่ออาการเจ็บป่วยให้หน่วยบริการอื่น
- บริการแพทย์แผนไทย (การรักษาด้วยสมุนไพร / นวด / ประคบ)
- บริการฟื้นฟูสมรรถภาพแก่ผู้พิการ
แม้สิทธิเหล่านี้คือสิทธิขั้นพื้นฐานอันสมควรที่คนไทยควรได้รับ แต่เมื่อเราพิจารณาจากความจริงในอีกมุมมองหนึ่ง ปริมาณการเข้ารับบริการจากโรงพยาบาล เพื่อการรักษาจากสิทธิ์นี้ก็มีจำนวนมากอีกเช่นกัน และในเมื่อมีจำนวนมาก จึงทำให้เกิดความแออัดของจำนวนผู้เข้ารับการรักษาและบริการสูง ต่อจำนวนผู้ให้การรักษาและบริการที่มีอยู่น้อยนิด เมื่อหมอและพยาบาลในโรงพยาบาลรัฐมีจำนวนไม่เพียงพอ และต้องทำงานหนักขึ้น เป็นผลให้ประสิทธิภาพในการรักษาลดประสิทธิภาพลง และเมื่อเกิดความแอดอัดในสถานพยาบาล การระบายผู้ป่วยเข้าออกจึงทำได้อย่างล่าช้า เป็นเหตุให้การไปโรงพยาบาลรัฐจะต้องไปรอตั้งแต่เช้ามืด นั่งรอคิวเป็นวัน
ในบางครั้งอาการเจ็บป่วยนั้นรอไม่ได้ เราจะทำอย่างไร
การได้รับการรักษาที่รวดเร็ว ปลอดภัย มักจะมีราคาที่สูงตามมา โดยอย่างยิ่งในโรงพยาบาลเอกชน ที่มีค่าใช้จ่ายเเพงกว่าโรงพยาบาลรัฐหลายเท่าตัว แต่ก็เเลกมาด้วยการได้รับการรักษาที่ทันท่วงที ไม่ต้องรอนาน ซึ่งในจุดนี้ผู้ป่วยทุกคนอยากได้รับบริการหรือสิทธินี้ด้วยกันทั้งนั้น แล้วเราจะทำได้อย่างไรบ้าง เมื่อเกิดเหตุเจ็บป่วยต้องพักรักษาตัว และเสี่ยงต่อการมีค่าใช้จ่ายสูง
ประกันสุขภาพ ประกันโรคร้ายแรง มีไว้ก่อนล้มละลายไปกับค่ารักษาพยาบาล
ประกันนั้นคืออีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้ป้องกันกันไม่ให้เงินออมหมดไปกับการรักษาตัว ด้วยการให้ความคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลตามเงื่อนไข ไม่ว่าจะเจ็บป่วยเล็กน้อยหรือนอนพักรักษาในโรงพยาบาล ซึ่งไม่ว่าจะเป็นคนวัยทำงาน, ผู้สูงอายุ, หรือแม้แต่ลูกหลาน ล้วนเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงหรือเผชิญมลภาวะและความกดดันทุกวัน ไม่ว่าจะอายุเท่าไร เพศไหน วัยไหนก็ตาม ล้วนแต่มีโอกาสเจ็บป่วยได้ทั้งนั้น
เสาหลักของครอบครัว จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีประกันสุขภาพ
ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ หรือผู้ที่เป็นผู้นำครอบครัว การมีประกันสุขภาพจะช่วยลดผลกระทบเรื่องเงินภายในครอบครัว ลดปัญหาการเงินขาดสภาพคล่อง และไม่ส่งผลกระทบต่ออนาคตของลูก หรือแม้แต่สมาชิกในครอบครัวก็ควรที่จะมีประกันสุขภาพที่เหมาะสมกับบุคคลนั้นๆ ด้วยเช่นกัน เพื่อไม่ให้การเจ็บป่วยแต่ละครั้งส่งผลกระทบกับเงินออมที่มีทุกครั้งไป
ประกันสุขภาพ คุ้มครองค่ารักษาอะไรบ้าง?
- ค่ารักษาพยาบาล ประเภทผู้ป่วยใน / ผู้ป่วยนอก
- ค่าผ่าตัด
- ค่าห้อง
- ค่าอาหาร
- ค่าแพทย์วินิจฉัย
- ค่ารถพยาบาล
เรารู้กันอยู่แล้วว่าเรามีสิทธิพื้นฐานอะไรบ้าง และประกันสุขภาพที่เสริมเข้ามานั้นมีความสำคัญกับใครบ้าง อย่างน้อยๆ ในการเจ็บป่วยที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคตก็ยังไม่ทำให้เราล้มละลายเสียทีเดียว หากมีการวางแผนรับมือเอาไว้ล่วงหน้า
อ่านมาถึงจุดนี้แล้ว จะเห็นได้ว่าความเจ็บป่วยหรือเรื่องสุขภาพ เป็นเรื่องที่สำคัญเพราะไม่เพียงแต่เรื่องการรักษาพยาบาล แต่ยังรวมไปถึงค่าใช้จ่ายอีกมากมายที่ต้องตามมา การเตรียมพร้อมในด้านสิทธิประโยชน์ เป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนต้องวางแผน สำหรับคนเริ่มวางแผนการซื้อประกันและอยากศึกษาข้อมูล อ่านเพิ่มเติมได้จาก 5 โรคร้ายที่ไม่คาดคิด รู้ทันเพื่อดูแลตัวเองและคนที่คุณรัก