ผู้สื่อข่าวรายงานจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แจ้งว่าเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน การซื้อขายหุ้นในช่วงเช้าของวันแรกในสัปดาห์นี้พบว่า เปิดตลาดดัชนีหลุด 1,700 จุด ปรับตัวลดลง 11 จุดจากวันก่อนหน้า จากนั้นดัชนีก็ลดลงเรื่อยๆ ล่าสุดเวลา 10.52 น. ลดลง 17.49 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,687.33 จุด มูลค่าซื้อขายเบาบางที่ 14,795 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เมื่อปิดการซื้อขายในช่วงระหว่างวันที่ 1,683.81 จุด ลดลง 21.01 จุด หรือลดลง 1.23% ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 26,923.04 ล้านบาท ทั้งนี้ในช่วงเช้าดัชนีต่ำสุดอยู่ที่ 1,681.97 จุด และปรับขึ้นสูงสุดที่ 1,695.44 จุด
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ แจ้งว่า สาเหตุที่หุ้นปรับตัวลงเนื่องจากตลาดรับข่าวลบจากต่างประเทศเมื่อคืนวันที่ 15 มิถุนายน เกี่ยวกับสงครามการค้าขนาดย่อมระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ซึ่งต่างฝ่ายต่างประกาศเก็บภาษีนำเข้าอัตรา 25% ซึ่งกันและกัน มูลค่าของมาตรการคิดเป็น 3.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐโดยเริ่มมีผลวันที่ 6 กรกฎาคมนี้ อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวถือว่าต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าถึง 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งข่าวลบดังกล่าวน่าจะเป็นข่าวลบสุดท้ายแล้ว หลังจากนี้ปัจจัยต่างประเทศจะมีเสถียรภาพมากขึ้น แต่ยังมีเงินไหลออกอยู่บ้างจากค่าเงินบาทอ่อนค่าลงที่ระดับ 32.67 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
