‘จักริน’ปัดถูกดูดเข้าพลังประชารัฐเผยแค่โทรถามสุขทุกข์-ชี้จุดยืนยังอยู่เพื่อไทย

เมื่อ วันที่ 20 มิถุนายน 2561 นายจักริน พัฒน์ดำรงจิตร อดีต สส.พรรคเพื่อไทย จ.ขอนแก่น กล่าวถึงกรณีที่มีการเดินสายดูดอดีต ส.ส.ทั่วภาคอีสานว่า เรื่องของการเดินสายดูดอดีต ส.ส.นั้น มองว่าอาจจะเดินสายทักทายกันก็ได้ ฟังแล้วดูเหมือนพวกเดินสายดูดส้วม อย่างไรก็ตามยืนยันว่า ส่วนตัวนั้นไม่มี และยืนยันว่าตั้งแต่เป็น ส.ส.มาไม่เคยมีมาเลย ตั้งแต่ปี44 เลือกตั้งมา 5 ปี ยังไม่เคยมีใครมาหาเลย ซึ่งกระแสการดูด ส.ส.อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ยังไม่เคยมีใครเข้ามาคุยเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามมีจริงๆแล้วมีผู้หลักผู้ใหญ่โทรศัพท์มาทักทายพูดคุยว่าตอนนี้เป็นอย่างไร ก็เป็นการโทรมาทักทายตามปกติ แต่ยังไม่ได้คุยกันเป็นกิจจะลักษณะ ยังไม่ได้มีการชักชวนหรือพูดคุยให้เข้าร่วมพรรคประชารัฐแต่อย่างใด มีเพียงการโทรมาถามไถ่พูดคุยถึงสารทุกข์สุขดิบ

“หากมีการทาบทามพูดคุยชักชวนเข้าร่วมพรรคพลังประชารัฐ ผมมีหลักการ คือผมมาเป็นผู้แทนได้เพราะอะไร ตัวเองจะรู้คนอื่นไม่รู้กับเรา บางคนก็บอกว่าคุณซื้อเสียง บางคนก็บอกว่าเรามีวิธีการนั่นโน่นนี่ แต่ด้วยตัวเราเองจะรู้อย่างผม เรารู้ว่าคะแนน 3 – 4 หมื่นคะแนนที่ได้ เขาเลือกนายจักริน ถึง 200 เสียงหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ เพราะฉะนั้นก็แปลว่าเขาเลือกเอาที่พรรคการเมือง เขาเลือกเอาที่นโยบาย เพราะฉะนั้นถ้าเราอยากเป็นผู้แทน เราไปอยู่ในพรรค ที่นโยบายมันไม่โดนใจชาวบ้านอะไรแบบนี้มันก็ไม่มีประโยชน์ เปรียบเทียบให้ฟังง่ายๆนั่นหมายถึงว่าผมเดินถามชาวบ้านว่าชอบพรรคไหน ถาม 100 คน คนตอบมา 85 คน บอกว่าชอบพรรคไทยรักไทย ชอบพรรคพลังประชาชน ชอบพรรคเพื่อไทย มันก็ไม่เห็นมีประโยชน์ที่ผมจะไปฝืนความรู้สึกของประชาชน แต่ถ้าผมใช้พฤติกรรมในการเลือกตั้งอีกแบบหนึ่ง ผมอาจจะไม่ต้องสนใจก็ได้ว่า ใครจะชอบหรือไม่ชอบถึงเวลาผมจัดการตามรูปแบบของผม”นายจักรินกล่าว

นายจักริน กล่าวต่อว่า การที่จะเป็น ส.ส. เป็นผู้แทนตัวเองมั่นใจที่พรรค เกี่ยวที่ตัวพรรคและที่สังกัด คือถ้าการตัดสินใจ ถามว่าเลือกตั้ง เราไม่ใช่เป็นคนที่จะเลือกตัวเราเอง ชาวบ้านเป็นคนเลือกแต่ว่าเลือกพรรคเราเป็นคนเลือกเพราะฉะนั้นถ้าคุณเลือกถูกพรรค ประชาชนเขาก็เลือกคุณ ถ้าคุณเลือกไม่ถูกเขาก็ไม่เลือกหรอกคุณ กติกามีแค่นั้น และสำหรับการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้นมีพรรคที่อยู่ในใจอย่างไรบ้าง ซึ่งเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยก็ยังแสดงจุดยืนที่ชัดเจน กับพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด และตนก็ไม่มีเหตุผลอื่นที่จะต้องทิ้งพรรค เก็บกระเป๋าเสื้อผ้าเดินออกจากพรรค ซึ่งจุดยืนของตนคืออยู่ที่พรรคเพื่อไทย ตั้งมั่นอยู่ที่พรรคเพื่อไทย ถ้าพรรคเพื่อไทยเปลี่ยนจุดยืน ตนก็อาจจะเปลี่ยนใจ แต่ถ้าพรรคเพื่อไทยยังมีจุดยืนยังรักความเป็นประชาธิปไตย ยังรักที่จะทำงานให้ชาวบ้าน ตนก็ไม่เปลี่ยน แต่ถ้าวันใดพรรคเพื่อไทยบอก เราไม่เอาแล้วเราจะสนับสนุนเราจะแบบเปลี่ยนจุดยืนอย่างนี้ตนก็อาจจะรับไม่ได้ก็จะไม่อยู่

“ตอนนี้พรรคเพื่อไทยจะเป็นพรรคที่ยึดโยงกับความรู้สึกของชาวบ้าน โดยเฉพาะในเรื่องของความเท่าเทียม ความเท่าเทียม 1 คน 1 เสียง นั่นก็คือเรื่องของความเป็นประชาธิปไตย ตัวนี้เป็นตัวที่พรรคเพื่อไทยยังถูกพูดถึงในแง่ที่ดีอยู่ตลอดเวลา ในเรื่องของความเป็นประชาธิปไตย ถึงแม้คนที่ไม่นิยมชมชอบพรรคเพื่อไทย ไม่นิยมชมชอบนโยบาย แต่ว่าจุดยืนตรงนี้ทำให้ประชาชนรู้สึกว่ายังมีจุดยืน แต่ถ้าวันใดวันหนึ่งพรรคเพื่อไทยมาบอกว่าไม่เอาแล้วเปลี่ยนบ้างอะไรบ้าง ผู้บริหารพรรคเปลี่ยนแนวทาง ผมว่ามันก็จะมีการเปลี่ยนใจ ไม่ใช่แต่เฉพาะตัวผม เพราะว่ามันก็จะมีหลายคนที่คิดอยากจะเปลี่ยน ซึ่ง ณ วันนี้ยังมีจุดยืนที่จะอยู่พรรคเพื่อไทย ณ วันนี้พรรคเพื่อไทยมีจุดยืนแบบนี้ อย่างนี้เราก็จะมีจุดยืนกับพรรคเพื่อไทยแบบนี้”นายจักรินกล่าว

Advertisement

นายจักริน กล่าวอีกว่า ส่วนในเรื่องของพรรคพลังประชารัฐนั้น ตนไม่ได้มองและยังไม่รู้จัก และยังไม่รู้ว่าใครเป็นใครอย่างไร แล้วโดยการที่จะดูด ส.ที่พูดๆกันมองว่าก็เหมือนขอสาวแต่งงาน มันก็มีการหมั้นกันก่อน ถึงเวลาเราไม่ไปกับเขาก็ได้ ถึงเวลาเราไม่เอาก็ได้ ส่วนที่ไม่ได้หมั้นจะหอบผ้าหนีตามก็ได้ ข่าวที่เกิดขึ้นถือว่าดี เป็นการสร้างสีสันในบรรยากาศ ณ ตอนนี้ และไม่ใช่ในสิ่งที่เราเห็นที่เราทราบตอนนี้จะต้องใช่เสมอไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image