นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้เข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) สมัยพิเศษ ครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2561 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยรัฐมนตรีจากสมาชิกทั้ง 16 ประเทศเห็นร่วมกันให้สมาชิกเร่งสรุปการเจรจาจัดทำความตกลงอาร์เซ็ปให้เสร็จภายในปีนี้
ที่ประชุมได้ตั้งเป้าให้การประชุมคณะกรรมการเจรจาจัดทำความตกลงฯ ครั้งที่ 23 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพในระหว่างวันที่ 17-27 กรกฎาคมนี้ ต้องสรุปและปิดการเจรจาใน 3 เรื่อง คือ พิธีการศุลกากร มาตรฐานสุขอนามัยพืช และกฎระเบียบทางเทคนิค และมุ่งหวังให้การเจรจาในเรื่องอื่นๆ ที่เหลือ เช่น พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ การแข่งขันการเยียวยาทางการค้า บทบาทด้านการเงินและโทรคมนาคม สามารถสรุปผลได้ในทุกประเด็น
โดยเหลือเพียงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจในระดับนโยบาย เพื่อส่งให้การประชุมระดับรัฐมนตรีสามารถสรุปผลได้โดยเร็ว ซึ่งที่ประชุมได้มอบหมายให้คณะเจรจาจัดทำรายการ ประเด็นที่ต้องการให้ระดับรัฐมนตรีตัดสินใจในการประชุมรัฐมนตรี ครั้งที่ 6 ในปลายเดือนสิงหาคม 2561 ณ ประเทศสิงคโปร์ เพื่อให้ได้ข้อยุติก่อนที่จะรายงานผลสำเร็จต่อการประชุมระดับผู้นำในการประชุมสุดยอดอาเซียน เดือนพฤศจิกายนนี้
ในส่วนของการเปิดตลาด สมาชิกทั้ง 16 ประเทศ ตกลงให้มีการปรับปรุงข้อเสนอการเปิดตลาดสินค้าบริการและการลงทุนอีกครั้ง ภายในวันที่ 13 กรกฎาคม 2561 โดยในเรื่องสินค้า อาเซียนยังคงยืนยันและร่วมกันผลักดันให้สมาชิกยอมรับการผูกพันการยกเลิกภาษีศุลกากรอย่างน้อย 92% ของจำนวนรายการสินค้าทั้งหมดตามเป้าหมายที่อาเซียนเสนอ และเน้นให้มีการหารือทวิภาคีเกี่ยวกับรายการสินค้าที่ต้องการเข้าสู่ตลาดเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของสมาชิกให้มากที่สุด
ส่วนการเจรจาเรื่องกฎเกณฑ์ทางการค้า มีพัฒนาการอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ สามารถได้ข้อสรุปเพิ่มขึ้นในเรื่องต่างๆ เช่น การให้มีมาตรการคุ้มครองผู้บริโภคออนไลน์ เพื่อจัดการกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่หลอกลวง การให้มีกฎระเบียบคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับผู้ใช้พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ โดยคำนึงถึงมาตรฐาน แนวทาง และกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศ เป็นต้น ส่วนเรื่องพิธีการศุลกากรถือว่ามีความคืบหน้าในรอบนี้เช่นกัน ในประเด็นเรื่องกระบวนการหารือและตัวแทนการออกของในระดับมาตรฐาน คาดหวังให้สรุปได้ทั้งหมดในช่วงการประชุมคณะกรรมการเจรจาฯ ครั้งที่ 23 ณ กรุงเทพฯ ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ในแผนงานการเจรจาของปี 2561
สำหรับประเทศไทยให้ความสำคัญกับการจัดทำความตกลง RCEP ให้เป็นความตกลงที่มีคุณภาพ เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศไทย และต้องการให้สรุปผลการเจรจาโดยเร็ว เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาส ที่จะเชื่อมโยงผู้ประกอบการเข้าสู่ห่วงโซ่แห่งคุณค่าในภูมิภาค RCEP ซึ่งจะเชื่อมโยงต่อเนื่องไปเศรษฐกิจโลกด้วย
การค้าของไทยกับประเทศสมาชิกอาร์เซ็ป ในปี 2560 มีมูลค่าการค้ารวมประมาณ 269 แสนล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 58.66 ของการค้ารวมทั้งหมดของไทย เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ร้อยละ 10.85 โดยสินค้าสำคัญที่ไทยส่งออกไปยังภูมิภาคอาร์เซ็ป ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก น้ำมันสำเร็จรูป เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ยาง ยางพารา เครื่องจักรกล เหล็ก เป็นต้น