เมื่อเวลา 20.10 น. ที่อบต.โป่งผา ในช่วงการตอบคำถามหลังรายงานแถลงจากศอร. ผู้สื่อข่าวจากซีเอ็นเอ็น ได้ซักถามไปยังนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ในฐานะ ผบ.ศอร. ถึงสิ่งที่ทำให้มุ่งมั่นปฏิบัติภารกิจนี้ต่อไปแม้อาจไม่มีความหวัง
โดย นายณรงค์ศักดิ์ ตอบว่า การทำงานในภารกิจนี้ทุกคนต่างคิดว่าเป็นงานที่หนักที่สุด ตนไม่เชื่อว่าจะมีอะไรที่ยากไปกว่านี้
“เราต้องแข่งเรื่องน้ำที่เพิ่มตลอดกับเวลาที่ค่อยๆสูญหายไป ทุกคนมีความท้อในการทำงานเสมอ เมื่อวันพุธที่ 27 มิถุนายน เป็นวันที่เราเสียพื้นที่การสูบน้ำทั้งหมด ทุคนท้อแม้ได้ระดมทุกสรรพกำลังทั้งหมดในการทำงานอย่างเต็มที่ สุดท้ายเราพ่ายแพ้น้ำจึงตัดสินใจถอนกำลัง หากว่าไม่ถอนออกมา เราอาจเสียทั้งกำลังคน และอุปกรณ์ทั้งหมด ออกไปชิงความได้เปรียบแล้วค่อยมาสู้กันใหม่ และเราก็ทำได้ ทุกวันและนาทีมีความอ่อนล้าเหนื่อยแรง แต่พลังใจทุกคนที่อยู่หน้างานทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 4 พันคนเพื่อน้องทั้ง 13ชีวิต” นายณรงค์ศักดิ์ กล่าว
ขณะที่ ผู้สื่อข่าวจากหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดี้ยนถามถึงประเด็นในการมอบสัญชาติให้กับหนึ่งใน13 หมูป่าเนื่องจากมีกระแสข่าวว่า มีบุคคลหนึ่งไม่มีสัญชาติไทยนั้น นายณรงค์ศักดิ์ตอบเพียงว่า ทุกคนมีสิทธิในความเป็นพลเมืองแต่ต้องให้เป็นไปตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม นายณรงค์ศักดิ์ ได้กล่าวยืนยันว่าภาพเด็กในโรงพยาบาลที่ได้ปรากฎให้เห็นนั้น เป็นของจริงไม่ใช่การซ้อมแต่อย่างใด
จากนั้น นายณรงค์ศักดิ์ ได้ยกคำที่ระบุว่าได้พบในอินเตอร์เน็ตกล่าวว่า เจอคนหาย อย่าลืมคนหา พร้อมระบุว่าทุกคนเป็นจิ๊กซอว์ที่ต่อกันจนเป็นภาพความสำเร็จนี้
