ส่ง3ศพฮ.ตกไปชันสูตรอีกรายยังหาไม่เจอ ผู้ว่าสั่งเยียวยาเต็มที่-เหยี่ยวข่าวช่อง7ระบุเสียมากกว่าเพื่อนร่วมงาน

เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 18 ก.ค.2561 นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย ว่าที่ ร.ต.อัธยา ลาภมาก ผู้อำนวยการท่าอากาศยานขอนแก่น ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุเฮลิคอปเตอร์ เกิดอุบัติเหตุตกบริเวณทุ่งนา ท้ายหมู่บ้านบ้านหูลิง ต.วังแสง อ.ชนบท จ.ขอนแก่น เพื่อบัญชาการเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อให้การปฎิบัติเป็นไปตามขั้นตอน รวมทั้งการให้กำลังใจกับผู้ปฎิบัติงานและทีมข่าว เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสื่อมวลชน โดยมีทีมข่าวจากสำนักต่างๆ โดยเฉพาะจากสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ที่เดินทางมาติดตามเหตุการณ์ ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนักอย่างต่อเนื่อง โดยมีประชาชนในพื้นที่รวมทั้งสื่อมวลชนจากแขนงต่างๆเดินทางมาติดตามทำข่าวกันตลอดทั้งวัน

นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวยืนยันพบศพผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 3 ราย โดยเป็นเครื่องบินแบบยูโรคอปเตอร์ รุ่น AS355NP ทะเบียน HS-PNG ของ บริษัท เฮลิลักซ์ เอวิเอชั่น จำกัด ซึ่งแม้จะมีรายชื่อผู้เดินทางมากับเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าว 4 คนประกอบด้วย นายเสกสรร วรรณา นักบิน,พ.ต.อ.สินสมุทร สินเภตรา ผู้ช่วยนักบิน,นายสำเนา น้อยสกุล ผู้โดยสาร (ช่างภาพสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7) และ นายรณกิจ เพชรนิล ผู้โดยสาร (ช่างภาพสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7) แต่ในขณะนี้พบผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 3 ราย อีกรายนั้นยังคงต้องตรวจสอบอย่างละเอียดว่าเสียชีวิตหรือรอดชีวิตหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ผู้เสียชีวิตทั้ง 3 รายนั้นได้ส่งไปทำการพิมพ์ลายนิ้วมือที่ รพ.ชนบท ก่อนส่งไปทำการชันสูตรที่ สถาบันนิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ เพื่อยืนยันสาเหตุของการเสียชีวิตอีกครั้ง

“ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานดำเนินการอย่างเต็มที่และเป็นไปตามระเบียบ และขั้นตอนตามระเบียบวิธีการปฎิบัติ โดยขณะนี้ได้ให้มีการตรวจสอบในเรื่องของประกันภัย รวมทั้งสิทธิต่างๆ เพื่อให้การช่วยเหลือผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ ขณะที่นาข้าวของประชาชนผู้ได้รับความเสียหายให้มีการตรวจสอบการประกันภัยในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้การช่วยเหลือแก่ผู้สูญเสียนั้นเป็นไปอย่างเหมาะสม เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวนี้เป็นอุบัติเหตุและไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น อีกทั้งมีการยืนยันชัดเจนว่า เฮลิคอปเตอร์ดังกล่าวนั้น รับทีมข่าว จากสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 บางส่วนเดินทางมาจาก จ.สระบุรี และจอดแวะเติมน้ำมันที่สนามบินสระบุรี และมีกำหนดการเดินทาต่อเพื่อมารับผู้สื่อข่าวที่สนามบินขอนแก่นเพื่อปฎิบัติหน้าที่งานข่าวในพื้นที่ จ.ขอนแก่น,มหาสารคาม,กาฬสินธุ์และ จ.ร้อยเอ็ด ส่วนสาเหตุของการเกิดเหตุนั้นต้องรอให้ผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงานคณะกรรมการสอบสวนอากาศยานประสบอุบัติเหตุ กระทรวงคมนาคม ทำการตรวจสอบรายละเอียดต่างๆอีกครั้ง” นายสมศักดิ์กล่าว

นายณัชฐพงศ์ มูฮัมหมัด ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 กล่าวว่า ก่อนเกิดเกตุได้มารอทีมงานที่สนามบินขอนแก่น เพื่อร่วมทำข่าวอิทธิพลของพายุฝนที่ จ.ร้อยเอ็ด เนื่องจากในระยะนี้มีพายุเข้าในพื้นที่หลายจังหวัดในภาคอีสาน โดยทีมข่าวนั้นให้มาแสตนบายเพื่อรายงานข่าวในพื้นที่ โดยขณะอยู่ที่สนามบินสระบุรียังคงคุยกันกับทีมงานอยู่

Advertisement

“ ผมทำข่าวร่วมงานกับทีมเหนี่ยวข่าว 7 สี ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาทำข่าวเรื่องของตัวเอง หรือพูดเรื่องของตัวเอง ผมเสียมากกว่าเพื่อร่วมงาน ทุกวันเราอยู่กันแบบครอบครัว และขณะนี้ยังคงไม่มีการสรุปยืนยันอย่างเป็นทางการว่าผู้เสียชีวิตนั้นเป็นใครบ้างเพราะต้องรอการยืนยันจากทีมแพทย์นิติเวชในการพิสูจน์อัตลักษณ์ และตอนนี้เรายังคงหาอีก 1 ชีวิตว่าอยู่ที่ไหน”นายณัชฐพงศ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บริษัทเอสเอฟเอส เอวิเอชั่น จำกัด ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับเครื่องเฮลิคอปเตอร์จตกที่จังวัดขอนแก่น โดยในแถลงการณ์นั้นพบนามบัตรของนายวันชัย คุณวราดิศัย ซึ่งเป็นผู้บริหารของบริษัทฯ และยืนยันว่าข้อมูลดังกล่าวนี้นั้นไม่ถูกต้อง และข่าวที่แพร่ภาพออกไปนั้นทำให้เกิดความสับสนและสร้างความเสียหายแก่บริษัทฯเป็นอย่างยิ่ง จึงขอให้สำนักข่าวฯช่วยแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image