เมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 21 กรกฎาคม ที่สน.ทองหล่อ พ.ต.อ.ขจรพงศ์ จิตภาคภูมิ ผกก.สน.ทองหล่อ พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ รองผกก.สส.สน.ทองหล่อ และพ.ต.ท.อัครรัช ถนอมชาติ สว.สส.สน.ทองหล่อ ร่วมกันนำกำลังตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ จับกุมตัว นายสืบศักดิ์ ซอเฮง อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาพร้อมของกลาง รถยนต์ฮอนด้า รุ่นเอชอาร์วี สีดำ หมายเลขทะเบียน วท799 กรุงเทพมหานคร โดยสามารถจับกุมได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 33/23 ม.5 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กทม. สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม เวลาประมาณ 14.00 น. ได้มีนางสาวเบญจรัตน์ อรรถจินดา ผู้เสียหายซึ่งเป็นลูกสาวเจ้าของธุรกิจบริษัทโฆษณา และเป็นเจ้าของแบรนด์จิวเวลรี่ชื่อดัง เข้าแจ้งความตำรวจ สน.ทองหล่อ ว่า ก่อนเวลาเกิดเหตุเมื่อประมาณ 3 อาทิตย์ก่อน ตนได้ว่าจ้างให้นายสืบศักดิ์ เป็นผู้ขับรถประจำตัว จนกระทั่งเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม เวลาประมาณ 15.30 น. ซึ่งเลิกงานปกตินายสืบศักดิ์ได้นำรถยนต์ไปจอดไว้ที่คอนโดแห่งหนึ่ง ภายในซอยทองหล่อ 20 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. แล้วแยกกลับบ้านพักไป ต่อมาวันที่ 20 กรกฎาคม เวลาประมาณ 09.30 น. ผู้เสียหายจึงได้ตรวจสอบพบว่ารถยนต์คันดังกล่าวหายไป จึงเดินทางมาร้องทุกข์ดังกล่าว ต่อมาเวลาประมาณ 20.00 น.ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนสอบสวน ตรวจสอบเส้นทางการหลบหนีของคนร้าย กระทั่งพบเบาะแสว่ารถยนต์คันดังกล่าวได้จอดอยู่ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 33/23 ม.5 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กทม.จึงนำกำลังเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น HRV สีดำ หมายเลขทะเบียน วท-799 กทม. จอดอยู่บริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว และต่อมาพบนายสืบศักดิ์ออกมาปรากฎตัวอยู่ที่ด้านข้างตัวรถยนต์คันดังกล่าว ทางตำรวจจึงแสดงตัวเข้าทำการตรวจสอบ แต่ทางนายสืบศักดิ์กลับวิ่งหลบหนี ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้วิ่งไล่ตามไปได้ทัน จนสามารถควบคุมตัวไว้ได้ จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางสอบสวนที่สน.ทองหล่อ
จากการสอบสวน นายสืบศักดิ์ ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยทำงานเป็นคนขับรถประจำตัวให้ชาวญี่ปุ่น ต่อมานายจ้างได้กลับไปยังประเทศบ้านเกิด ทำให้ตกงานไม่มีงานทำ ต่อมาได้มีญาติแนะนำให้ไปสมัครเป็นคนขับรถบ้านผู้เสียหาย ซึ่งเปิดรับสมัครผ่านทางอินเตอร์ กระทั่งมาทำงานได้ระยะหนึ่ง โดยวันเกิดเหตุผู้ต้องหาอ้างว่าได้สอบถามผู้เสียหายว่าจะไปข้างนอกหรือไม่ แต่ทางผู้เสียหายไม่มีธุระไปไหน ตนจึงอาศัยจังหวะนี้ตั้งใจขับรถไปหาญาติที่บ้านพักหลังดังกล่าว เพื่อโชว์ให้รู้ว่ามาทำงานกับนายจ้างรายนี้มีรถให้ขับด้วย กระทั่งมาถูกจับกุมดังกล่าว อย่างไรก็ตามทางตำรวจยังไม่ปักใจเชืาอต่อคำให้การต้องทำการสอบสวนขยายผลอีกครั้ง เมื่อทำการตรวจสอบประวัติพบว่าคนร้ายรายนี้ เมื่อปี 45 เคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ในพื้นที่ สน.มีนบุรี ทั้งนี้ทางตำรวจอยากประชาสัมพันธ์เตือนภัยบรรดานายจ้าง ว่าหากจะรับใครทำงานต้องทำการตรวจสอบให้ละเอียด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุร้ายเช่นนี้อีก เบื้องต้น แจ้งข้อหา “ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างในเวลากลางคืนหรือรับของโจร” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
