เมื่อเวลา 12.10 น.วันที่ 24 กรกฎาคม ที่แหล่งสมาคมหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ค่ายสมเด็จพระนารายณ์มหาราช จ.ลพบุรี หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษได้จัดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “ระบบการจัดการบริหารเหตุการณ์วิกฤต” ซึ่งมีผู้ปฏิบัติงานในภารกิจกู้ภัยทีมหมูป่าอะคาเดมี่เข้าร่วมจำนวนมาก รวมทั้ง “ทีมรังนกลิบง” ที่อาสาเข้าช่วยเหลือในครั้งนั้น โดยนายชัยพฤกษ์ วีระวงศ์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์แห่งหมู่เกาะลิบง (ขวา) สมาชิกทีมเก็บรังนกลิบง กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ทีมรังนกป่วยเป็นไข้มาลาเรียหลังการปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือทีมหมูป่าอะคาเดมี่ว่า ไม่จริง เข้าใจว่าเป็นความผิดพลาดของการสื่อสาร โดยระบุว่าภาพเด็กที่ปรากฏตามข่าวนั้น เด็กคนดังกล่าวป่วยเป็นไข้หวัด ขณะที่สมาชิกทีมรังนก 2 คน ก่อนหน้ามีอาการหลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ เป็นไข้หวัด แต่หายดีแล้ว
ต่อมา นายชัยพฤกษ์กล่าวถึงความยากของภารกิจที่ผ่านมาว่า สำหรับตนมองว่าการเดินทางลำบากที่สุด เพราะต้องขึ้นเขาสูงพันกว่าเมตร แม้จะไม่ได้หย่อนตัวลงถ้ำด้วย แต่ทราบว่าต้องใช้กำลังมาก อีกทั้งลักษณะหินภายในถ้ำที่ไม่เกาะตัวกับผนัง ทำให้เหยียบลงไปแล้วอาจร่วงหล่นไปได้
นอกจากนี้ การทำงานของทีมลิบงยังพบอุปสรรคคือเรื่องอุณหภูมิ โดยนายประเสริฐ ขวัญแก้ว (ซ้าย) สมาชิกทีมรังนกอีกรายอธิบายว่า การที่ถ้ำในภาคใต้มีลักษณะเป็นถ้ำทะเล จึงเกิดความชื้นได้น้อยกว่า เพราะอยู่ในน้ำเค็ม ขณะที่ถ้ำหลวงอยู่ในป่าดิบชื้นและมีความสูง ทำให้อากาศข้างในถ้ำหนาวเย็น ซึ่งสมาชิกทีมรังนกไม่คุ้นชินนัก
