นายมนัส กำเนิดมณี รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ตามที่มีสื่อบางฉบับเผยแพร่ข่าว สำนักงบประมาณสั่งกรมชลประทานทบทวนการใช้จ่ายงบประมาณโครงการจ้างแรงงานชลประทานสร้างรายได้แก่เกษตรกร ในโครงการไทยนิยมยั่งยืน ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กระทรวงการคลังกำหนดให้มีการจ้างแรงงานเฉพาะผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเท่านั้น แต่กรมชลประทานใช้งบประมาณ 187.4 ล้าน จำนวน 172 รายการ เป้าหมายจ้างแรงงาน 7,520 คน แต่ผลการดำเนินงานเมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2561 ได้จ้างงาน 8,075 คน แยกเป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 4,934 คน คิดเป็น 61.10% ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมาย และมีการจ้างผู้ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 3,141 คน คิดเป็น 38.90% นั้น
จากมติครม.เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2561 ที่กำหนดกรอบหลักการเพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายไปสู่การปฏิบัติเกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน หัวข้อ 1.2 คนไทยไม่ทิ้งกัน ด้วยการดูแลผู้มีรายได้น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ลงทะเบียนโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการจ้างแรงงานชลประทานสร้างรายได้แก่เกษตรกร ตามกรอบคนไทยไม่ทิ้งกัน กรมชลประทานได้กำหนดแนวทางการรับสมัครให้ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้รับสิทธิในการสมัครเป็นอันดับแรก แต่ภายหลังเปิดรับสมัคร พบว่าผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมาสมัครไม่ครบตามเป้าหมาย เนื่องจาก บางรายมีอายุเกิน 60 ปี บางรายอยู่ห่างไกลจากพื้นที่หน้างานจึงไม่มาสมัคร ขณะเดียวกันกรมชลประทานจำเป็นต้องเร่งดำเนินการซ่อมแซมปรับปรุงและบำรุงรักษาระบบชลประทานให้พร้อมใช้งานก่อนฤดูน้ำหลากปี 2561 กรมชลประทานจึงได้จ้างแรงงานผู้ที่ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติมตามลำดับ โดยเป็นเกษตรกร กลุ่มผู้ใช้น้ำในพื้นที่ เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร และผู้ใช้แรงงานทั่วไป เป็นต้น เพื่อให้โครงการแล้วเสร็จสามารถใช้งานได้ตามกำหนด
ทั้งนี้กรมชลประทานได้หารือสำนักงบประมาณ เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาการจ้างแรงงานผู้ที่ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามกรอบที่กระทรวงการคลังกำหนด โดยในเบื้องต้นได้สั่งยุติการจ้างแรงงานผู้ที่ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และอยู่ระหว่างหารือสำนักงบประมาณและสำนักงานเศรษฐกิจการคลังในการผ่อนผัน การจ้างแรงงานผู้ที่ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้ อย่างไรก็ตาม กรมชลประทานไม่ได้หยุดงานเนื่องจากเป็นหน้าฝนจำเป็นต้องเร่งงาน เพื่อให้การซ่อมแซมปรับปรุงและบำรุงรักษาระบบชลประทานแล้วเสร็จพร้อมใช้งานก่อนฤดูน้ำหลากเพื่อใช้งานได้ตามกำหนด
