ครูหมีเริ่มสบายใจ หลายฝ่ายลงไปให้คำปรึกษา ขณะที่เด็กๆ เริ่มเห็นใจครูมากขึ้น พูดคุยทางเฟซ ทางไลน์ รับปากว่าจะใช้หนี้ ไม่ผิดนัดให้ครูหนักใจ แต่ยังเป็นห่วงอยู่ 2 คน ที่ฐานะย่ำแย่ ไม่สามารถผ่อนหนี้กยศ.ได้เหมือนคนอื่น
ความคืบหน้ากรณีครูหมี สรพงศ์ เค้ากล้า ครูโรงเรียนห้วยต้อนพิทยาคม จ.ชัยภูมิ ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กขอร้องลูกศิษย์ที่ตนเองเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ กยศ. ขอให้ทุกคนที่มีงานทำ มีรายได้แล้ว นำเงินไปใช้หนี้ด้วย ไม่อยากโดนยึดทรัพย์เหมือนครูวิภา บานเย็น เพราะอายุมากแล้ว สุขภาพก็ไม่แข็งแรงนั้น
เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสรพงศ์ เค้ากล้า หรือครูหมี ยังคงทำหน้าที่ตามปกติ ที่โรงเรียนห้วยต้อนพิทยาคม จ.ชัยภูมิ ตั้งแต่เช้าขณะพาเด็กนักเรียนเข้าแถวเคารพธงชาติ ยังคงมีสื่อมวลชนติดตามลงไปสัมภาษณ์อย่างต่อเนื่อง รวมทั้ง ผอ.โรงเรียน คณะครู ศิษย์ปัจจุบัน ได้มาพูดคุยให้กำลังใจ พร้อมขึ้นพูดหน้าเสาธง ขอให้เด็กรุ่นต่อไป ใช้กรณีครูหมีเป็นบทเรียน กู้เงินกองทุนเงินกู้เพื่อการศึกษา(กยศ.)ไปแล้ว เมื่อถึงกำหนดก็ต้องใช้หนี้ตามสัญญา อย่าให้ครูผู้ค้ำประกันเดือดร้อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ยังมีนายอาณัติ สีหวัฒนะ ผอ.สำนักงานบังคับคดีจังหวัดชัยภูมิ เดินทางไปพบกับครูหมีที่โรงเรียน พูดคุยนานเกือบชั่วโมง ให้คำแนะนำกรณีเป็นผู้ค้ำ ถูกศาลสั่งให้ชดใช้หนี้แทนผู้กู้ ตามขั้นตอนของกฎหมายไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด มีขั้นตอนอีกมากมายกว่าจะถึงขั้นยึดทรัพย์ ไม่ใช่ว่าจู่ๆ จะยึดทรัพย์ได้เลย หากได้รับหมายศาลจริง สามารถเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งใช้เวลากว่า 10 ปี ถึงจะเข้าสู่กระบวนการยึดทรัพย์ได้
ด้านนายสรพงศ์ หรือครูหมี เปิดเผยว่า หลังได้รับคำปรึกษา ทำให้รู้สึกสบายใจขึ้น เพราะที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ ได้รับหมายศาล 15 ใบ ในฐานะผู้ค้ำเงินกู้ กยศ. ได้ให้ผู้กู้คือนักเรียนไปประนอมหนี้ ครั้งที่หนึ่งก็ไปแล้ว ยังมีมาครั้งที่ 2 อีก เพราะหลังประนอมหนี้แล้ว ลูกศิษย์ส่งใช้หนี้ไม่ตรงเวลา บางคนส่งมา 1-2 ปี แล้วหยุดส่ง ผู้รู้หลายท่านเคยบอกเอาไว้ว่า อย่าให้มีหมายศาลครั้งที่ 3 นะ เพราะถ้ามีจะถูกยึดทรัพย์ทันที ทำให้ช่วงนั้นกังวลมาก ประกอบกับเห็นข่าวกรณีครูวิภา บานเย็น ยิ่งกังวล ไม่อยากเห็นหมายครั้งที่ 3 แต่พอมีผอ.สำนักงานบังคับคดีจังหวัดชัยภูมิ มาให้คำแนะนำจึงรู้สึกสบายใจขึ้น
“จริงๆ แล้ว ผมได้ค้ำประกัน กยศ.ให้ลูกศิษย์มาตั้งแต่ปี 2539-2548 ค้ำรุ่นละ 2 คนบ้าง 5 คนบ้าง สะสมมาเรื่อยๆ รวมแล้วน่าจะ 40 คน ส่วนมากก็ไม่มีปัญหา ไม่ได้รับหมายศาลบังคับหนี้ จะมีก็ 15 คน นี่แหละ มีหมายมา 2 ครั้งแล้ว ผมก็ออกตามหาและพาไปประนอมหนี้ครบทั้ง 15 คนเด็กๆ เขาก็ส่งเงินตามที่ประนอมหนี้ ก็ยังมีขาดส่งอยู่เรื่อยๆ ซึ่งก็เข้าใจว่าเด็กเรียนจบใหม่ เพิ่งมีงานทำ เงินคงไม่พอใช้ จึงโพสต์ข้อความสื่อสารออกไป ให้คนที่มีรายได้ ไปใช้หนี้เงินกู้ กยศ. ไม่มีเจตนาเป็นอย่างอื่น” ครูหมีกล่าว
ครูหมี กล่าวด้วยว่า ในจำนวน 15 คน มีอยู่ 2 คน ที่มีปัญหามากกว่าคนอื่น ขาดส่ง 2-3 ปี ตนได้ติดตามหา จนพบตัวแล้วพาไปไกล่เกลี่ยสำเร็จไปแล้ว 1 คน เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนอีกคนหนักสุด เจอมรสุมหลายอย่างในชีวิต ทั้งตกงาน ครอบครัวแตกแยก ทรัพย์สินพ่อ-แม่ ก็ต้องขายเพื่อรักษาพ่อแม่ จนพ่อแม่เสียชีวิต ตอนนี้ไม่มีงานทำ ทรัพย์สินก็ไม่เหลือ อยู่ตัวคนเดียว ไม่รู้จะหาเงินจากไหนไปใช้หนี้ กยศ. ตอนนี้ตนก็ได้แต่ฝากให้เพื่อนๆ ช่วยหางานให้เขาทำ เพื่อช่วยเหลือแบ่งเบาภาระ ยังไงก็แล้วแต่เด็กรายนี้หากไม่มีทางจริงๆ ก็พร้อมช่วยเหลือไม่ทอดทิ้ง
“หลังออกสื่อในช่วงนี้ ก็มีเด็กๆ ทั้งในกลุ่ม 15 คน และคนอื่นๆ ที่เห็นข่าว ได้ติดต่อสื่อสารเข้ามาทางเฟซบุ๊ก ทางไลน์ ทั้งสอบถาม ทั้งให้กำลังใจครู คนที่หยุดส่ง ก็แสดงความเป็นห่วง และรับปากว่าจะพยายามหาเงินส่ง เพื่อไม่ให้ครูเดือดร้อน หรือถ้ามีปัญหาจริงๆ ครูก็แนะนำให้เขาไปพูดคุยโดยตรงกับ กยศ.เพื่อหาทางช่วยเหลือกันต่อไป” ครูหมีกล่าว
