เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 2 สิงหาคม จ.เพชรบูรณ์ ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีดินบนเขาภูทับเบิกเกิดการสไลด์ ทำให้ถนนทางขึ้นภูทับเบิก ทางหลวงหมายเลข 2331 (โจ๊ะโหวะ-อุทยานฯภูหินร่องกล้า) อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ เกิดการทรุดตัวหนัก จนแขวงทางหลวงเพชรบูรณ์ที่ 1 แจ้งปิดการใช้ถนนเส้นนี้ และให้เลี่ยงไปใช้ถนนทางอื่นแทน ล่าสุด พล.ต.ต.สัณห์ โพธิ์รักษา ผบก.ภ.จ.เพชรบูรณ์ พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หล่มเก่า ลงพื้นที่สำรวจการทรุดตัวของถนนทางขึ้นภูทับเบิก ระหว่าง กม.9+300 ถึง กม.10+650 หมู่ที่ 8 ต.บ้านเนิน อ.หล่มเก่า มีนายอลงกรณ์ พรหมศิลป์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงเพชรบูรณ์ที่ 1 นำสำรวจพร้อมชี้แจงถึงการสไลด์ของดิน และการทรุดตัวของถนนบริเวณดังกล่าว พร้อมแจ้งว่าจากการตรวจวัดระยะห่างการทรุดตัวจากผิวถนนเดิมในทุกๆ 3 ชั่วโมง ปัจจุบันวัดได้ถึง 150-180 เซนติเมตรแล้ว ทั้งนี้ การทรุดตัวของถนนยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นระยะๆ และยังเฝ้าจับตาสังเกตถึงมวลดินขนาดใหญ่ที่มีโอกาสจะสไลด์ยกทั้งแผงได้ตลอดเวลา ยิ่งหากมีฝนตกลงมาซ้ำอีก นอกจากนี้ คณะพล.ต.ต.สัณห์ ยังสังเกตเห็นรอยเลื่อนขนาดใหญ่ของดินบริเวณไหล่เขาที่เกิดจากการสไลด์ เหนือแนวถนนระหว่าง กม.10+380 ถึง กม.10+650 ขึ้นไปอย่างชัดเจน
พล.ต.ต.สัณห์ กล่าวว่า บริเวณแนวถนนที่เกิดความเสียหายระยะทางเป็นกิโลเมตรแล้ว โดยช่วงสไลด์ของดินเป็นแนวลาดเดียวกันหมด ทางแขวงฯ จึงขอให้ปิดการจราจร และจะมีวิศวกรผู้เชี่ยวชาญมาสำรวจโครงสร้างกันอีกทีว่าจะทำอย่างไร หากตรงนี้เป็นแผล ก็ถือว่าเป็นแผลใหญ่ที่ต้องเร่งดำเนินการ ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องออกประกาศเจ้าพนักงานจราจรปิดการจราจร เพื่อความปลอดภัยชีวิต และทรัพย์สินของผู้ใช้เส้นทางนี้ ถ้าจะมาเที่ยวภูทับเบิก ก็มีเส้นทางบ้านแยงสามารถเขามาได้ โดยทาง สภ.หล่มเก่าจะประสานทางด่านอุทยานฯ เพื่อขอยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมเข้า เนื่องจากเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วย
“ส่วนเส้นทางขึ้นลงภูทับเบิกเส้นนี้ หากไม่จำเป็น ก็ไม่ควรใช้สัญจรขึ้นลงภูทับเบิก ปัจจุบันถือว่าค่อนข้างอันตรายมาก ส่วนชาวบ้านที่ต้องใช้รถกระบะปิ๊กอัพในการขนย้ายพืชผลทางการเกษตร ควรเปลี่ยนเส้นทาง และเพื่อความปลอดภัย จำเป็นต้องปิดเส้นทางแบบ 100% อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ก็ยังมีผู้ที่ไม่เชื่อเรื่องอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น และยังพยายามที่จะฝ่าฝืน ฉะนั้น เพื่อความปลอดขอให้รถยนต์ทุกชนิดเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นแทน” พล.ต.ต.สัณห์ กล่าว
นายยศสุพล สุขเพ็ง อายุ 53 ปี พนักงานขับรถแบ็กโฮ สำนักงานทางหลวงที่ 6 กล่าวว่า ขณะขับรถแบ็กโฮปรับถนนบริเวณที่ทรุด ยังรู้สึกได้ว่าถนนยังมีการทรุดตัวไปเรื่อยๆ ขณะเดียวกันรอยแยกบนถนนยังค่อยๆ ห่างออกจากกันไปเรื่อยๆ เช่นกัน ก็กลัวจะทรุดไปทั้งแผลเช่นกัน แต่ก็ยังเชื่อว่าหากพื้นที่กินบริเวณกว้าง ถนนบริเวณนี้คงไม่ทรุดโดยทันทีทันใด ซึ่งจากพื้นที่เล็ก และแคบจะสไลด์ค่อนข้างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม หากมีอะไรผิดสังเกต จะรีบเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่บริเวณอย่างเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ล่าสุด พล.ต.ต.สัณห์ ได้ลงนามประกาศเจ้าพนักงานจราจร เรื่องห้ามรถยนต์ทุกชนิดผ่านเส้นทางขึ้นลงภูทับเบิก ลงวันที่ 2 สิงหาคม 2561 เรียบร้อยแล้ว โดยให้เหตุผลว่า หลังจากเกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้ผิวทางตั้งแต่ กม.9+300 ถึง 10+650 เกิดการทรุดตัว เพื่อความปลอดภัยจึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 138(1) พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2552 ผบก.ภจเพชรบูรณ์ ในฐานะพนักงานจราจา ตามคำสั่งกระทวง มท.ที่ 529/2555 จึงออกข้อบังคับห้ามรถยนต์ทุกชนิดผ่านถนนทางหลวงหมายเลข 2331 (สายโจ๊ะโหวะ-อุทยานฯภูหินร่องกล้า) ระหว่าง กม.9+300 ถึง 10+650 จนกว่าจะซ่อมแล้วเสร็จ
