จากคะแนนเต็ม 10 คะแนนความพึงพอใจในการบริหารงานเฉลี่ย 5.06 ถือว่าคาบเส้นอย่างชนิดฉวดเฉียดอยู่แล้ว
แต่ที่น่าเศร้ายิ่งกว่านั้น
คะแนนเฉลี่ยจาก”การประเมินผลงาน 4 ปี”ยังลดต่ำลงกว่า”การประเมินผลงาน 3 ปี” ซึ่งได้เฉลี่ย 5.27
ยังเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามากยิ่งกว่า
ความเจ็บปวดอย่างที่สุดเป็นความคาดหวังจากการทำงานตลอด 4 ปีแต่ยังทำไม่สำเร็จ คือ ปัญหาเศรษฐกิจซึ่ง กับ ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ
และอีกปัญหา คือ การจัดให้มีการเลือกตั้ง
ทั้งๆที่ “ประชารัฐ” คึกคักไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า “ไทยนิยม”ยั่งยืน
หากนำเอาผลสำรวจของ”กรุงเทพโพล”ไปประสานกับผลสำรวจของ “สวนดุสิตโพล”
จะยิ่งก่อความหดหู่ในหัวใจ
ไม่ว่าจะเป็นหัวใจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าจะเป็นหัวใจของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
เพราะ”สวนดุสิตโพล” ยังยืนยัน
หากมีการเลือกตั้งประชาชนจะยังคงเลือก”พรรคเพื่อไทย”มาเป็นอันดับ 1
ทั้งๆที่เป้าหมายของ”รัฐประหาร” คือ “เพื่อไทย”
ทั้งๆที่ไม่ว่า นายทักษิณ ชินวัตร ไม่ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถูกไล่ต้อนออกไปจากประเทศไทยถ้วนหน้าพร้อมกับคดีติดตัวมะนุงมะนัง
แต่คะแนนและความนิยมยังเทให้ พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และที่สุดคือพรรคเพื่อไทยไม่เสื่อมคลาย
เท่ากับ “รัฐประหาร” ต้อง”เสียของ”ไปอีกหรือ
หากจะปลอบใจว่าฐานการสำรวจไม่ว่า”สวนดุสิตโพล” ไม่ว่า”กรุง เทพโพล” มาจากกลุ่มตัวอย่างประมาณกว่า 1,000 ตัวอย่าง
แต่ที่สำคัญคือ ลักษณะ”เปรียบเทียบ”
เปรียบเทียบว่าคะแนนที่สะท้อนความรู้สึกของประชาชน 4 ปีลดลงจาก 3 ปี
เปรียบเทียบว่าคะแนนที่สะท้อนความรู้สึกของประชาชนต่อพรรคเพื่อไทยมิได้เปลี่ยนแปลงยังคงอยู่ในความนิยม
นิยม”เพื่อไทย” แต่คะแนน”คสช.”ลด
