17-20 ส.ค. เบบินคา อ่อน เป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ คลุมเหนือ-อีสาน เชียงรายฝนยังตกหนักมาก

วันที่ 14 สิงหาคม แบบจำลองสภาพอากาศ(วาฟ-รอม) สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร(สสนก.) กระทรวงวิทยาศาสตร์แบละเทคโนโลยี(วท.) รายงานว่า ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนัก โดยเฉพาะบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก เพชรบูรณ์ เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อุบลราชธานี กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา

วาฟรายงานว่า สำหรับ พื้นที่วิกฤตนั้น ยังคงเป็น บริเวณ เขื่อนแก่งกระจานและเขื่อนน้ำอูน มีระดับน้ำเต็มความจุเก็บกักแล้ว และคาดการณ์ว่าจะยังคงมีฝนเพิ่มขึ้นทำให้ยังคงมีน้ำไหลลงเขื่อนเพิ่มขึ้นอีกได้

พายุดีเปรสชั่น “TWENTY” ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “เบบินคา” (BEBINCA) แล้ว โดยยังคงปกคลุมด้านตะวันออกของเกาะไหหลำและเกือบไม่เคลื่อนที่เนื่องจากยังคงถูกหย่อมความกดอากาศต่ำจากพายุยากิเหนี่ยวนำเอาไว้ จากนั้นเมื่อหย่อมความกดอากาศต่ำจากพายุยากิอ่อนกำลังลง โดยพายุเบบินคาจะเคลื่อนตัวผ่านเกาะไหหลำเข้าสู่ประเทศเวียดนามตอนบนแล้วอ่อนกำลังลง และจะเคลื่อนตัวลาวตอนบนแล้วอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำต่อไป

วาฟระบุว่า สำหรับ สถานการณ์ฝนตกนั้น ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และด้านตะวันตกของภาคกลาง โดยมีฝนตกหนักบริเวณจังหวัดเชียงราย 83 มิลลิเมตร นครพนม 66 มิลลิเมตร นครนายก 66 มิลลิเมตร กาญจนบุรี 51 มิลลิเมตร พะเยา 50 มิลลิเมตร และบึงกาฬ 41 มิลลิเมตร

Advertisement

ปริมาณน้ำกักเก็บรวมทั้งประเทศอยู่ร้อยละ 71 น้ำไหลลงเขื่อนมากกว่าค่าเฉลี่ย และอยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง เขื่อนแก่งกระจาน มีปริมาณน้ำกักเก็บร้อยละ 102 เป็นน้ำใช้การได้จริง 658 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) สถานการณ์น้ำมีน้ำเกินความจุเก็บกัก วันที่ 13 สิงหาคม มีน้ำไหลลงอ่างฯ 12.82 ล้าน ลบ.ม. และระบายน้ำ 12.87 ล้าน ลบ.ม.เขื่อนวชิราลงกรณ มีปริมาณน้ำกักเก็บร้อยละ 86 เป็นน้ำใช้การได้จริง 4,600 ล้านลูกบาศก์เมตร สถานการณ์น้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำมาก วันที่ 13 สิงหาคม มีน้ำไหลลงอ่างฯ 71.93 ล้าน ลบ.ม. และระบายน้ำ 42.65 ล้านลูกบาศก์เมตร ยังรับน้ำได้อีก 1,248 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนน้ำอูน มีปริมาณน้ำกักเก็บร้อยละ 103 เป็นน้ำใช้การได้จริง 489 ล้าน บ.ม. สถานการณ์น้ำมีน้ำเกินความจุเก็บกัก วันที่ 13 สิงหาคม มีน้ำไหลลงอ่างฯ 4.34 ล้าน ลบ.ม. และระบายน้ำ 5.21 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนศรีนครินทร์ มีปริมาณน้ำกักเก็บร้อยละ 88 เป็นน้ำใช้การได้จริง 5,270 ล้าน ลบ.ม.สถานการณ์น้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำมาก วันที่ 13 สิงหาคม มีน้ำไหลลงอ่างฯ 33.50 ล้าน ลบ.ม. และระบายน้ำ 24.85 ล้าน ลบ.ม. ยังรับน้ำได้อีก 2,210 ล้าน ลบ.ม.

เขื่อนปราณบุรี มีปริมาณน้ำกักเก็บร้อยละ 79 เป็นน้ำใช้การได้จริง 289 ล้านลบ.ม. สถานการณ์น้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำมาก วันที่ 13 สิงหาคม มีน้ำไหลลงอ่างฯ 5.08 ล้าน ลบ.ม. และระบายน้ำ 9.92 ล้าน ลบ.ม. ยังรับน้ำได้อีก 84 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนรัชประภา มีปริมาณน้ำกักเก็บร้อยละ 86 เป็นน้ำใช้การได้จริง 3,518 ล้านลบ.ม. สถานการณ์น้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำมาก วันที่ 13 สิงหาคม มีน้ำไหลลงอ่างฯ 38.77 ล้าน ลบ.ม. และระบายน้ำ 6.69 ล้าน ลบ.ม. ยังรับน้ำได้อีก 770 ล้าน ลบ.ม.

วาฟระบุว่า ช่วงวันที่ 14-16 สิงหาคม ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยและทะเลอันดามันยังคงมีกำลังแรง ประกอบกับยังคงปกคลุมด้านตะวันออกของเกาะไหหลำและเกือบไม่เคลื่อนที่เนื่องจากยังคงถูกหย่อมความกดอากาศต่ำจากพายุยากิเหนี่ยวนำเอาไว้ จากนั้นเมื่อหย่อมความกดอากาศต่ำจากพายุยากิอ่อนกำลังลง พายุเบบินคาจะเคลื่อนตัวผ่านเกาะไหหลำเข้าสู่ประเทศเวียดนามตอนบนแล้วอ่อนกำลังลง ส่งผลให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่องในภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน รวมทั้งแนวปะทะของลมมรสุมในด้านตะวันตกของประเทศ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก เพชรบูรณ์ เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อุบลราชธานี กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา

Advertisement

ช่วงวันที่ 17-20 สิงหาคม พายุโซนร้อนเบบินคาจะอ่อนกำลังลงและเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศเวียดนามตอนบนและลาวตอนบน จากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมแนวรอยต่อของ จ.เชียงราย ประเทศลาวและพม่า ส่งผลให้ภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีฝนเพิ่มขึ้นละมีฝนตกหนักถึงหนักมาก โดยเฉพาะ จ.เชียงราย พะเยา น่าน และตอนบนของ จ.เชียงใหม่ ส่วนลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงมีกำลังแรงต่อเนื่อง ส่งผลให้แนวปะทะของลมมรสุมในด้านตะวันตกของประเทศ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก จะยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

ช่วงวันที่ 14-16 สิงหาคม ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทยยังคงมีกำลังแรง ส่งผลให้คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนยังคงมีกำลังแรง โดยจะมีคลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image