น.ส.ดารณี แซ่จู ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า ไตรมาสที่ 2 ปี 2561 เป็นไตรมาสแรกในประวัติศาสตร์ที่รายได้ค่าธรรมเนียมการโอนเงินติดลบ โดยติดลบ 11.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และจากไตรมาสก่อนที่ขยายตัว 8.8% โดยมูลค่าอยู่ที่ 5.27 พันล้านบาท โดยเป็นผลมาจากการที่ธนาคารพาณิชย์ได้มีการยกเลิกการเก็บค่าธรรมเนียมการโอนผ่านช่องทางดิจิทัลตั้งแต่ช่วงต้นไตรมาสที่ 2 รวมทั้งพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนมาใช้ช่องทางดิจิทัล คือ โมบายแบงกิ้งและอินเตอร์เน็ตแบงกิ้งมากขึ้น ซึ่งจำนวนธุรกรรมล่าสุดอยู่ที่ 224 ล้านรายการ หรือคิดเป็นกว่า 90% ของธุรกรรมการโอนเงินทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ค่าธรรมเนียมการโอนเงินคิดเป็นเพียง 11% ของรายได้ค่าธรรมเนียมรวม โดยค่าธรรมเนียมอื่นๆ มาจากธุรกิจบัตรและเช็ค ค่านายหน้า การให้สินเชื่อ หลักทรัพย์และที่ปรึกษา และอื่นๆ ทำให้ค่าธรรมเนียมโดยรวมยังขยายตัวได้ 1.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และจากไตรมาสก่อนที่ขยายตัว 8.2% หรือ 3.59 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ กำไรสุทธิอยู่ที่ 56.5 หมื่นล้านบาท ขยายตัว 15.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน จากรายได้ดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อที่เพิ่มขึ้นตามการเติบโตของสินเชื่อ และค่าใช้จ่ายกันสำรองที่ลดลงจากแนวโน้มคุณภาพสินเชื่อโดยรวมที่ปรับดีขึ้น
“รายได้ค่าธรรมเนียมการโอนเงินยังมีแนวโน้มที่จะลดลงอีกตามพฤติกรรมลูกค้า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่กระทบต่อการทำกำไรของธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากมีรายได้ชดเชยจากรายได้ดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อที่เพิ่มขึ้นตามการเติบโตของสินเชื่อ และค่าใช้จ่ายกันสำรองที่ลดลง แต่มีแรงกดดันกำไรจากรายได้ค่าธรรมเนียมการโอนเงินยังมีแนวโน้มที่จะลดลงอีก รวมทั้งเม็ดเงินการลงทุนด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและระบบป้องกันความปลอดภัย และต้นทุนดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในระยะข้างหน้า” น.ส.ดารณีกล่าว
