“ถ้าผมเป็น ผบช. ให้รอดู.. ” เปิดใจ ‘สุรเชษฐ์ หักพาล’ โฆษกสีกากี ของ ‘บิ๊กป้อม’ เสียงซุบซิบ ผบ.ตร.น้อย!

เมื่อ ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงนามคำสั่งรองนายกรัฐมนตรี ที่ 1/ 2561 ลงวันที่ 19 สิงหาคม ที่ผ่านมา แต่งตั้ง “ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี’ โดยตั้งให้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ ‘รองโจ๊ก’ รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว(รองผบช.ทท.) นายตำรวจคนสนิท  เป็นผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี(พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ทำให้วงการสีกากี และวงการการเมืองจับตาและพูดถึง “บิ๊กโจ๊ก” อีกครั้ง

ในฐานะนายตำรวจข้างกาย “บิ๊กป้อม” นายตำรวจติดตามคนสนิท ที่รับตำแหน่งสำคัญครั้งนี้ และยังเป็นผู้ทำหน้าที่รับรายงานเหตุสำคัญจากบิ๊กสีกากีทั่วประเทศ และรายงานตรงต่อบิ๊กป้อม ซึ่งกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติตามอำนาจหน้าที่

อีกทั้งยังเป็น นายพลหนุ่มดาวรุ่งพุ่งเร็ว ขยันสร้างผลงาน ตรงเป้า ขานรับนโยบายรัฐบาล จนเป็นที่รู้จักในนาม “บิ๊กโจ๊ก” ในช่วงปีที่ผ่านมา

โปรไฟล์แววดีเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ(นรต.)รุ่นที่ 47 ตำแหน่งรองผบช. ที่กำลังคั่วเก้าอี้ (ว่าที่)ผู้บัญชาการ สะพัดทั่วสำนักปทุมวันว่าจ่อขยับติดยศ พล.ต.ท.ในอีกไม่กี่วัน โดยอายุราชการยาวไกลเกษียณฯที่ปี 2574 และเป็นนายตำรวจเจ้าของฉายา “(บิ๊ก)โจ๊กหวานเจี๊ยบ” 

Advertisement

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรีป้ายแดง  ให้สัมภาษณ์มติชน ถึงกรณีที่ได้รับแต่งตั้งให้ เป็นผู้ช่วยโฆษก ประจำตัว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า ตนได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ผู้ช่วยของ พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหมและโฆษกประจำตัวของ พล.อ.ประวิตร เนื่องจาก พล.อ.ประวิตร กำกับดูแล หน่วยงานความมั่นคง ทั้งกระทรวงกลาโหม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยตนทำหน้าที่ผู้ช่วยโฆษกของพล.อ.ประวิตร ในส่วนงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำงานคู่ขนานกับโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร.) ที่มีอยู่แล้ว

“คำสั่งนี้ไม่มีอะไร ท่านรองนายกฯมองว่าปัญหาสำคัญลำดับต้นๆ ที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากในยุคนี้ คือการหลอกลวงต่างๆ ทั้งเงินกู้นอกระบบ เงินกู้เรียกดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด การทำสัญญาเงินกู้ที่ประชาชนเสียเปรียบถูกยึดโฉนดที่ดิน ทรัพย์สินต่างๆ ตามที่ผมและทีมไปช่วยกันนำโฉนดที่ดินคืนชาวบ้าน การหลอกลงทุนกับบริษัทที่เปิดขึ้นแบบชั่วคราว แบบเปิดมา 1 ปี แล้งลวงให้ประชาชนลงทุนด้วยอุบายต่างๆ ก่อนหนีหาย มีประชาชนสูญเสียนับล้านราย มูลค่าเสียหายนับพันล้าน รวมไปถึงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แก๊งโรแมนซ์สแกม ที่แม้จะปราบไปจนหมด แต่ก็ปรับอุบายหลอกหลวงหาเหยื่อต่อเนื่อง ซึ่ง พล.อ.ประวิตร สั่งการเป็นนโยบายสำคัญที่ต้องช่วยเหลือ เยียวยาประชาชน และที่สำคัญต้องสร้างการรับรู้ไม่ให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อ”
“ซึ่งเรื่องทั้งหมดผมก็ทำการปราบปรามบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว จึงรู้เรื่องเข้าใจเรื่องพวกนี้ดี พล.อ.ประวิตร จึงมองว่าให้ผมทำหน้าที่โฆษก ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับรู้กับมากๆในเรื่องนี้ เพื่อเตือนภัยและช่วยเหลือ ตัวท่านเองคิดทำงานเพื่อประชาชนทุกวัน หลายมิติ ผมก็จะทำหน้าที่ในมิติของการสื่อสารประชาสัมพันธ์ เฉพาะงานที่เกี่ยวกับตำรวจเพื่อให้งานสำเร็จ แต่จะไม่ไปก้าวก่ายในส่วนของโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ทำงานขนานกัน ผมจะทำหน้าที่โฆษกในงานนโยบาย ที่ พล.อ.ประวิตร เน้นย้ำเท่านั้น ที่ท่านแต่งตั้ง เพื่อให้ผมมีอำนาจหน้าที่เพิ่มขึ้น จะได้สิทธิ มีหน้าที่พูดเรื่องสำคัญที่ท่านเน้นย้ำ โดยเฉพาะเรื่องการหลอกลวงประชาชนรูปแบบต่างๆ ผมจะได้พูดได้อย่างเต็มที่ เราอยากช่วยเหลือประชาชนได้มากขึ้น เท่านั้นเอง” โฆษกสุรเชษฐ์ แจกแจกบทบาทหน้าที่

เมื่อถามว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าการมอบหมายให้ทำหน้าที่ผู้ช่วยโฆษกฯประจำตัว พล.อ.ประวิตร เป็นการเพิ่มบทบาท ตอกย้ำว่าเป็นคนสนิทที่ พล.อ.ประวิตร ให้การสนับสนุนผลักดันให้ขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บัญชาการในการแต่งตั้งนายพลตำรวจวาระประจำปี 2561 ที่กำลังจะเกิดขึ้น พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ บอกว่า ไม่เกี่ยวกันเลย

“ผมเรียนเลยว่าการอยู่ใกล้ผู้ใหญ่ ใกล้ผู้บังคับบัญชา อย่างท่านนายกรัฐมนตรี(พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) รองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร) ไม่ถือว่าเป็นบวกนะ บางทีเป็นลบด้วยซ้ำ ลบยังไง คือถ้าเราทำไม่ดี ไม่ทำงานมันเป็นลบเลย ลบไปถึงผู้ใหญ่ด้วย”
“การอยู่ใกล้ ผู้ใหญ่ยิ่งทำให้เราต้องทำงานหนัก ทำงานมากขึ้น ทำมากกว่า 2 เท่า ถ้าเราทำไม่ดีผู้ใหญ่ก็เสียหายด้วย อย่างผม ผมพยายามทำงาน 3 -4 เท่าเลย ท่านประวิตรท่านเป็นผู้ใหญ่ ท่านคิดตลอด ทำงานตลอด ผมยิ่งต้องทำตลอด”ผู้ช่วยโฆษกประจำตัวรองนายกรัฐมนตรี กล่าว

“เรื่องแต่งตั้ง คนละส่วนกัน วันนี้ไม่ต้องคิดว่ามีตำแหน่งอะไร ใครจะเป็นอะไร ต้องถามว่าเป็นแล้วทำอะไร ทำหน้าที่ ทำงานเหมาะจะอยู่ในตำแหน่งนั้นหรือไม่ หรือมีตำแหน่งแต่ไม่ทำอะไรเลย ไม่ว่าใครก็ตามไม่เฉพาะคนที่อยู่กับผู้ใหญ่ ” พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าว

Advertisement

พร้อมย้ำว่า ยืนยันว่าได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ขับเคลื่อนด้านการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับรู้ในส่วนงานตำรวจที่เป็นนโยบายตรง และนโยบายเน้นย้ำของพล.อ.ประวิตร เพื่อให้งานสำเร็จ มีอำนาจหน้าที่อย่างถูกต้องในการสื่อสารกับประชาชน ไม่เกี่ยวกับการให้บทบาทเพื่อผลักดันใดๆ

เมื่อถามว่า ได้รับการแต่งตั้งให้ทำงานใกล้ชิด พล.อ.ประวิตร มักจะถูกแซว ว่าเป็น ผบ.ตร.น้อย  “รองโจ๊ก” กล่าวว่า เรื่องตำแหน่งผบ.ตร. เป็นเรื่องของบุญ วาสนา

“เรื่องตำแหน่งผบ.ตร.ไม่ต้องคาดหวังว่าจะได้เป็น ตอนนี้เมื่อมีตำแหน่งอะไร ทั้งผบก.191 ผบก.ตำรวจท่องเที่ยว หรือรองผบช.ตำรวจท่องเที่ยว เป็นแล้วผมได้ทำอะไร ทำหน้าที่หรือเปล่า ให้มองตรงนั้น ว่าผมได้ทำหน้าที่ในตำแหน่งที่เป็นหรือไม่”

“ไม่ว่าจะมีตำแหน่งอะไรผมก็ทำหน้าที่ ต่อให้จากนี้จะเป็นผู้บัญชาการอะไร ก็ให้ดูว่าผมทำหน้าที่หรือเปล่า ให้ดูว่าผมทำอะไร” พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ทิ้งท้าย
 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image