เมื่อเวลา 13.10 น. วันที่ 21 ส.ค.61 ที่ สภ.นาจอมเทียน ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พ.ต.อ อาทร ชิ้นมาก ผกก.สภ.นาจอมเทียน พร้อมด้วยทีมงานสอบสวน ทีมงานสืบสวน สภ.นาจอมเทียน นำรถของกลาง จำนวน 6 คัน และอาวุธปืน รวมถึงหลักฐาน ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดี ยิง น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ อายุ 20 ปี และนายอนันตชัย จริตรัมย์ อายุ 21 ปี เสียชีวิต ทั้งคู่ บริเวณลานจอดรถถนนฝั่งตรงข้าม หน้าพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ ม.6 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อช่วงเวลา 16.20 น. ของวันที่ 29 ก.ค ที่ผ่านมา ไปยัง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) กทม. เพื่อเตรียมแถลงข่าว โดยมีรถตำรวจ เปิดไซเรน นำหน้า-ปิดท้ายไป
เพื่อรอการส่งมอบตัว นายปัญญา ยิ่งดัง หรือ เสี่ยอ้วน อายุ 39 ปี หัวหน้าแก๊งทีมสังหาร และมือปืน ที่หลบหนีเข้าประเทศกัมพูชาและถูกดำเนินคดี หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ล่าสุดจะมีการผลักดันกลับประเทศไทย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจไทย ได้ไปรอรับตัวด่านชายแดนจังหวัดสระแก้ว ก่อนควบคุมตัวตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน, พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนจะนำตัวขึ้น ฮ ไปแถลงข่าว ยัง สตช. กทม ก่อนจะรีบนำตัวมาสอบสวนทำสำนวนประกอบคดี ยัง สภ.นาจอมเทียน และเตรียมทำแผนการสังหาร ก่อนส่งฝากขังศาลจังหวัดพัทยา
ล่าสุดมีการกำชับมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาจอมเทียน จากนายตำรวจระดับสูง ว่าตลอดการนำตัวกลับมาสอบสวนและทำแผนประกอบคำรับสารภาพ จนกว่าจะถึงขั้นตอนฝากขังเสร็จเรียบร้อย ห้ามปล่อยให้นายปัญญา ยิ่งดัง หรือ เสี่ยอ้วน อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาอยู่เพียงลำพังโดยเด็ดขาด โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าควบคุมประกบ ตลอดเวลาจำนวน 2 นาย เนื่องจากผู้ต้องหามีความเครียดกลัวจะทำร้ายตัวเองจนเสียชีวิตได้ พร้อมกับได้ประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสภ.ใกล้เคียงมาเสริม เป็นจำนวนมาก เพื่อรองรับและรักษาความปลอดภัยขณะทำแผนรับสารภาพ เนื่องจากกลัวจะมีคนเข้าไปทำร้ายผู้ต้องได้
