‘เบนซ์’เปิดตัว‘เอส 560’ หรู-ล้ำสมัย-ไฮเทคโนโลยี

บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวยนตรกรรมสปอร์ตหรู รุ่นใหญ่ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส 560 คูเป้ เอเอ็มจี พรีเมียม (Mercedes-Benz S 560 Coupe AMG Premium) และ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส 560 คาบริโอเลต์ เอเอ็มจี พรีเมียม (Mercedes-Benz S 560 Cabriolet AMG Premium) รถยนต์ในกลุ่มลักชัวรี่คูเป้ และลักชัวรี่คาบริโอเลต์ รถยนต์สปอร์ต 2 ประตู

ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมกับการผสมผสานดีไซน์ ความสะดวกสบาย และเทคโนโลยี เข้าไว้กับนวัตกรรมล้ำสมัยแบบเดียวกับรถยนต์เอส-คลาส รุ่นซาลูน

 

ไฟหน้าแบบแอลอีดี อินเทลลิเจนต์ ไลท์ ซิสเต็ม (LED Intelligent Light System) ประดับด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้ (Swarovski crystals) 47 ชิ้น ประกอบด้วยไฟ เดย์ ไทม์ รันนิ่ง แลมป์ส (daytime running lamps) ส่องสว่างด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้ 17 ชิ้น ให้แสงสวยใสชัดเจน

Advertisement

ไฟเลี้ยวตกแต่งด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้ 30 ชิ้น รวมถึงยังเป็นเพียงรถยนต์ 2 รุ่นในตระกูลเอส-คลาส ที่ติดตั้งไฟท้ายแบบ OLED (Organic Light Emitting Diode) เป็นหลอดไดโอดเปล่งแสงขนาดบางเคลือบใต้กระจกของไฟหลัง รวม 33 ชิ้นต่อ 1 ข้าง ทำหน้าที่ควบคุมตำแหน่งและความสว่างของแสงได้อย่างแม่นยำ

กระจังหน้า ไดมอนด์ กริล (Diamond grille) สีเงิน พร้อมลายโครเมียม 1 แถบ ชุดแต่งสปอร์ตแบบ AMG พร้อมคิ้วโครเมียมตกแต่งบริเวณชายกันชนด้านหน้า, ปลายท่อไอเสียคู่, ดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อน สัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ บนคาลิปเปอร์เบรก และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 10-spoke ขนาด 20 นิ้ว ตกแต่งด้วยสี เทา ไทเทเนียม เกรย์

Advertisement

เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส 560 คูเป้ เอเอ็มจี พรีเมียม มาพร้อมหลังคาพาโนรามิคซันรูฟแบบ เมจิก สกาย คอนโทรล (MAGIC SKY CONTROL) ขนาดใหญ่ ปรับความเข้มของกระจกได้เพียงกดสวิตช์เพื่อกรองแสงที่เข้ามาได้

พาโนรามิคซันรูฟนี้ มีความยาวถึง 2 ใน 3 ของความยาวหลังคา หรือมีพื้นที่ประมาณ 1.32 ตารางเมตร

เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส 560 คาบริโอเลต์ เอเอ็มจี พรีเมียม มาพร้อมกับหลังคาแบบ เฟบริก ซอฟต์-ท็อป (fabric soft-top) หนา 3 ชั้น ชั้นนอกสุดเคลือบสารบูทีล (butyl) ทำให้รถยนต์มีระดับเสียงรบกวนภายในห้องโดยสารน้อยที่สุด

หลังคาสามารถกางเปิดหรือพับปิดได้ในเวลาเพียง 19 วินาที ขณะที่รถวิ่งที่ความเร็วสูงสุด 50 กม./ชม. มาพร้อมกับแผงบังคับทิศทางลม (AIRCAP)

ดีไซน์ภายในปรับโทนสีของไฟภายในห้องโดยสาร พรีเมียม แอมเบียนท์ ไลท์ (Premium Ambient Light) ระบบปรับอากาศ ระบบเครื่องเสียง รวมถึงโปรแกรมนวดของเบาะที่นั่งด้านหน้า 4 แบบ เบาะนั่งหุ้มหนังแนปปาแบบเอ็กซ์คลูซีฟ แพคเกจ ตัดเย็บลายเบาะแบบ ไดมอนด์ ดีไซน์ หน้าจอกว้างแบบไวด์สกรีน ค็อกพิท และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบสปอร์ต

เทคโนโลยีและระบบมัลติมีเดีย มีทั้งระบบไนท์ วิว แอสซิสท์ พลัส (Night View Assist Plus) ระบบจะช่วยให้ผู้ขับเห็นคนเดินถนน หรือสัตว์ขนาดใหญ่ในที่มืดโดยใช้แสงอินฟราเรด และกล้องอินฟราเรดระยะใกล้และไกล มองเห็นเพื่อลดอุบัติเหตุในที่มืด ระบบครอสวินด์ แอสซิสท์ (Crosswind Assist) ระบบช่วยประคองรถยนต์ให้ไม่หลุดออกนอกเส้นทางเมื่อมีลมแรง ระบบเมจิก วิชั่น คอนโทรล (MAGIC VISION CONTROL) ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติช่วยให้มองเห็นได้ดี ด้วยระบบฉีดน้ำกระจกหน้าจากก้านปัดน้ำฝน น้ำจะฉีดไปที่บริเวณด้านหน้าของใบปัดขณะทำการปัด

 

รวมถึงระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (Head-up display) ระบบป้อนเข็มขัดนิรภัยอัตโนมัติสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ฟังก์ชั่นปรับสมดุลอากาศภายในห้องโดยสาร (AIR BALANCE package) ระบบคอมมานด์ ออนไลน์ ฟังก์ชั่นเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ ระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (Wireless charging) ระบบสำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ บลูทูธ ระบบควบคุมและสั่งงานด้วยทัชแพด และระบบเสียงรอบทิศทาง เบอร์มีสเตอร์ ไฮ เอนด์ ทรีดี เซอร์ราวด์ ซาวด์ ซิสเต็ม

ทั้ง 2 รุ่น ยังมาพร้อมกับระบบช่วยเหลือการขับขี่และระบบความปลอดภัยที่ไม่เคยมีในรถยนต์รุ่นนี้มาก่อนมากมาย เช่น ระบบแอ๊กทีฟ เบรกกิ้ง แอสซิสท์ (Active Braking Assist) และฟังก์ชั่น ครอส ทราฟฟิก (Cross-Traffic) เทคโนโลยีช่วยหลีกเลี่ยงการชนกับรถยนต์คันอื่น หรือคนเดินถนนในบริเวณทางแยก สัญญาณเรดาร์ที่ติดอยู่บริเวณกันชนด้านหน้า และกล้อง MPC จะตรวจจับเหตุการณ์ที่มีความเสี่ยงต่อการชน จะส่งเสียงเตือนคุณให้เบรก

หากคุณตอบสนอง ระบบจะช่วยเพิ่มกำลังเบรกไปจนเต็มประสิทธิภาพ แต่หากไม่มีการตอบสนอง ระบบจะช่วยเบรกอัตโนมัติตามแต่ละสถานการณ์ นอกจากนี้ ในกรณีระบบไม่สามารถหลบหลีกวัตถุด้านหน้าได้ทัน ระบบจะช่วยลดความเร็วลง เพื่อช่วยลดความรุนแรงของอุบัติเหตุ

ระบบช่วยนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Parking Pilot including Active Parking Assist) ทั้งการจอดแบบขนานและการจอดแบบเข้าซอง โดยกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา จะแสดงภาพบริเวณรอบกันชนในจอแสดงผล รวมถึงภาพจากมุมสูง ช่วยให้เห็นสิ่งกีดขวางรอบคันรถ

ระบบจะส่งสัญญาณเตือนภัยทั้งภาพและเสียง ในขณะที่กำลังจอดรถด้วยความเร็วไม่เกิน 10 กม./ชม. เป็นการประสานการทำงานของระบบแอ๊กทีฟ สเตียริ่ง (active steering) ระบบสปีด คอนโทรล (speed control) และระบบเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติ แม้ในที่จำกัดหรือในกรณีต้องขยับรถหลายครั้ง พร้อมเพิ่มความปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วย ระบบไดรฟ์ อเวย์ แอสซิสท์ (Drive Away Assist) ส่งสัญญาณเตือนเมื่อตรวจจับความเสี่ยงต่อการชนขณะเหยียบคันเร่งหรือเบรกสลับกัน หรือเมื่อผู้ขับขี่เข้าเกียร์ไม่ถูกต้อง

ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมกับระบบส่งกำลังแบบ 9G ทรอนิก และเครื่องยนต์แบบ V8 เทอร์โบคู่ และระบบปรับรูปแบบขับขี่ ไดนามิก ซีเล็กต์ เลือกได้ 5 แบบคือ อีโค คอมฟอร์ท สปอร์ต สปอร์ตพลัส และอินดิวิดวล

รุ่น เอส 560 คูเป้ เอเอ็มจี พรีเมียม เครื่องยนต์ เบนซิน 8 สูบ เทอร์โบคู่ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ขนาด 3982 ซีซี กำลังสูงสุด 469 แรงม้า ที่ 5,250-5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตร ที่ 2,000-4,000 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.6 วินาที ความเร็วสูงสุดโดยประมาณ 250 กม./ชม. ราคา 15,990,000 บาท

ส่วน เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส 560 คาบริโอเลต์ เอเอ็มจี พรีเมียม เครื่องยนต์ เบนซิน 8 สูบ เทอร์โบคู่ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ขนาด 3982 ซีซี กำลังสูงสุด 469 แรงม้า ที่ 5,250-5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตร ที่ 2,000-4,000 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 4.6 วินาที ความเร็วสูงสุดโดยประมาณ 250 กม./ชม. ราคา 16,720,000 บาท

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image