เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงนโยบายของรัฐบาลที่มอบหมายว่ากระทรวงต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้พ้นจากความยากจน โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ใกล้ชิดป่าไม้ จากเดิมที่สามารถนำของป่ามาดำรงชีวิตได้แต่ไม่สามารถขายได้ จึงผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.ป่าชุมชนขึ้นมา และผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว ว่าให้ประชาชนสามารถนำของป่า เช่น เห็ดโคน ไข่มดแดง เห็ดเผาะ ไม้พะยูง แต่ต้องทำตามกติกาที่ประชาชนร่วมกำหนดกับภาครัฐ รัฐบาลต้องการทำให้ป่าชุมชนเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตของประชาชน สามารถนำผลิตภัณฑ์มาดำรงชีวิตและขายได้ เพื่อยกระดับรายได้ให้ประชาชนพ้นจากความยากจน โดยมีคณะกรรมการ 3 ระดับ คือระดับชาติ ระดับจังหวัดและในพื้นที่ ทั้งนี้ ประชาชนซึ่งสมัครเป็นสมาชิกป่าชุมชนจะคัดเลือกประธานขึ้นมา เพื่อให้ชุมชนมีโอกาสบริหารทรัพยากรป่าเอง ภายใต้ข้อกฎหมายที่จะร่วมกันร่างขึ้น ตรงนี้จะทำให้ประชาชนที่อยู่กับป่ามีส่วนร่วม นอกจากนี้ เรายังผลักดันการแก้ไข พ.ร.บ.ป่าไม้ ในมาตรา 7 ให้ไม้มีค่าในที่ดินกรรมสิทธิ์ไม่เป็นไม้หวงห้าม เวลาจะใช้ประโยชน์ไม่ต้องขออนุญาตเจ้าหน้าที่อีก ถ้าผ่านเป็นกฎหมายประชาชนจะสามารถนำไม้มีค่าในที่ดินของตัวเองไปใช้ประโยชน์ได้ จะทำให้ประชาชนมีรายได้ที่มั่นคงจากการประกอบอาชีพทำไม้ปลูกป่าเศรษฐกิจ ในอนาคตใครที่มีที่ดิน สามารถปลูกไม้มีค่าในที่ดินของตนเองได้ และถ้าไม้โตแล้วอยากจะตัดไปขายก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องขออนุญาตจากหน้าที่อีก หรืออยากจะเอาไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันก็สามารถทำได้เช่นกัน ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เราเร่งดำเนินการเพื่อให้ชีวิตประชาชนดีขึ้น
//////////////
