เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 30 สิงหาคม นพ.จิรพันธ์ เต้พันธ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยกรณีญาติผู้ป่วยร้องเรียนเรื่องพบผ้าก๊อซออกมาทางช่องคลอด หลังจากมาคลอดลูกที่โรงพยาบาลถลาง 2 เดือน ว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว พบว่าผู้ป่วยรายนี้มารับบริการคลอดที่โรงพยาบาลถลางจริง เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2561 เวลา 03.00 น.โดยคลอดปกติเป็นทารกเพศหญิง ทั้งนี้ ระหว่างการคลอดนั้น มีการตัดเย็บแผลฝีเย็บด้านขวาของช่องคลอด และมีการฉีกขาดบริเวณอวัยวะเพศทางด้านซ้ายเล็กน้อย ทางโรงพยาบาลได้เย็บฝีเย็บ และย้ายผู้ป่วยมาพักฟื้น ณ ตึกผู้ป่วยหลังคลอด จนกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ และโรงพยาบาลได้นัดตรวจ 7 วันหลังคลอด โดยผู้ป่วยมารับการตรวจตามนัด และเข้าคลินิกนมแม่ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้ดูตรวจดูแผลฝีเย็บหลังคลอด พบว่าแผลฝีเย็บติดดี ไม่มีบวมแดง น้ำคาวปลามีกลิ่นเล็กน้อย และได้มารับการตรวจ 45 วันหลังคลอด พบว่าแผลฝีเย็บติดดี มีน้ำคาวปลาเล็กน้อย
นพ.จิรพันธ์กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ที่ผ่านมา ผู้ป่วยได้มาโรงพยาบาลถลาง และให้ประวัติว่า 2 สัปดาห์ก่อนมาโรงพยาบาล มีอาการปวดช่องคลอด ช่องคลอดบวม และมีอาการแสบขณะปัสสาวะ ขณะนั่งมีอาการปวด และเมื่อเวลา 11.00 น.วันเดียวกันนั้น ขณะนั่งรับประทานอาหาร ได้มีผ้าก๊อซหลุดออกมาจากช่องคลอด ซึ่งทางแพทย์ ตรวจอัลตราซาวด์ให้ในทันทีหลังจากได้รับแจ้ง ผลการตรวจไม่พบความผิดปกติใดๆ และทางโรงพยาบาลได้นัดเพื่อติดตามอาการผู้ป่วยอีกครั้งในวันที่ 4 กันยายนนี้
“กรณีนี้ แม้ญาติผู้ป่วยจะไม่ร้องเรียน โรงพยาบาลถลางเพียงแค่ต้องการให้โรงพยาบาลรับรู้ถึงข้อผิดพลาดในการให้บริการเท่านั้น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตในฐานะแม่ข่ายที่ดูแลด้านสาธารณสุขใน จ.ภูเก็ต และโรงพยาบาลถลาง พร้อมทั้งคณะผู้บริหารได้เรียกประชุมผู้เกี่ยวข้องถึงข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งส่งตัวแทนเยี่ยมผู้ป่วย และญาติที่บ้าน พร้อมมอบกระเช้าเยี่ยม และกล่าวขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งดำเนินการเรื่องขอรับเงินชดเชยตามมาตรา 41 ต่อไป” นพ.จิรพันธ์ กล่าว
นพ.จิรพันธ์กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการเพื่อป้องกันความผิดพลาดในอนาคต สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ได้สั่งการให้หน่วยบริการสาธารณสุขทุกแห่งให้บริการอย่างรอบคอบ และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เช่น กรณีคลอดบุตรให้ตรวจภายในหลังการเย็บแผลหลังคลอดอย่างถี่ถ้วน การลดระยะเวลานัดตรวจผู้ป่วยหลังคลอดจาก 45 วันเหลือ 30 วัน เป็นต้น รวมทั้ง หากเกิดความผิดพลาดในการให้บริการในทุกกรณี จะต้องเยียวยาผู้ป่วย หรือญาติอย่างเร่งด่วน ทั้งนี้
“ขอบคุณผู้ป่วย และญาติ ที่กรุณาให้ข้อเสนอแนะ ข้อคิดเห็น เพื่อนำมาพัฒนาการบริการให้ดียิ่งขึ้น และป้องกันการเกิดข้อผิดพลาดต่อไป อีกทั้ง ยังคงให้ความไว้วางใจที่จะยังคงใช้บริการกับทางโรงพยาบาลถลางต่อไป” นพ.จิรพันธ์ กล่าว
