เมื่อวันที่ 4 กันยายน ที่โรงแรมดุสิตธานี นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย และประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า เหตุการณ์ระบบการโอนเงินของธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ ขัดข้องและใช้งานไม่ได้(ล่ม) ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นผลมาจากการผิดพลาดของบุคคลซึ่งได้มีการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากปัจจุบันระบบของธนาคารพาณิชย์มีความซับซ้อนมากขึ้น และมีธุรกรรมระหว่างกันจำนวนมาก โดยยืนยันว่าปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากระบบไม่สามารถรองรับธุรกรรมการเงินที่เกิดขึ้นจำนวนมากได้ซึ่งปัจจุบันการรองรับธุรกรรมสามารถทำได้จำนวนมากอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม อยากระบบของทุกธนาคารสามารถรองรับได้มากกว่า 4 เท่าของวันที่มีธุรกรรมมากที่สุด
นายปรีดี กล่าวว่า สมาคมฯ จะมีการหารือกับธนาคารสมาชิก เพื่อให้มีการกำหนดกฎเกณฑ์และกติกาที่ชัดเจนของแต่ละธนาคารเองและให้มีการดำเนินการตามขั้นตอนตามาตรฐานกลางอย่างเข้มข้นมากยิ่งขึ้น เพราะระบบธนาคารที่ซับซ้อนและมีคนที่เข้ามาเกี่ยวข้องจำนวนมาก หากเกิดการไม่มีดำเนินการตามขั้นตอนจะกระทบต่อระบบของธนาคารโดยรวมได้ ทั้งนี้ ก่อนที่จะมีการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้จะต้องมีการทดสอบให้เรียบร้อยและให้มั่นใจว่าไม่มีปัญหาอยู่แล้ว
“ปัจจุบันมีการใช้งานธุรกรรมออนไลน์เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมีระบบพร้อมเพย์และมีการยกเลิกการเก็บค่าธรรมเนียมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เกดความเสียหายกับเงินของประชาชน ยืนยันว่าเงินไม่ได้หายไปไหนแต่อาจจะได้ล่าช้าทำให้ประชาชนเกิดความไม่สะดวกและรู้สึกอึดอัด เนื่องจากเคยทำธุรกรรมได้สะดวกรวดเร็ว ทันที โดยธนาคารแต่ละแห่งรีบแก้ไขปัญหาเพื่อกลับมาใช้งานได้ตามปกติ ทั้งนี้ ธนาคารมีผู้เชี่ยวชาญที่ดูแลอยู่ 24 ชั่วโมงอยู่แล้ว เมื่อพบความผิดปกติก็จะมีการแก้ไขทันทีไม่ได้รีรอแต่อย่างใด” นายปรีดี กล่าว
นายปรีดี กล่าวด้วยว่า ขณะนี้สมาคมฯ อยู่ระหว่างการหารือเรื่องการขยายวงเงินการโอนเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย โดยจะมีการขยายวงเงินการโอนเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน และจะมีการหารือเรื่องค่าธรรมเนียมในการโอนอีกครั้งว่าจะมีการกำหนดอย่างไร คาดว่าจะมีความชัดเจนเร็ว ๆ นี้
