จีพีเอสซียันเข้าซื้อหุ้นโกลว์บนฐานจริยธรรมเล็งเอ็มโอยูลูกค้าสร้างความมั่นใจ

นายเติมชัย บุนนาค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ จีพีเอสซี เปิดเผยกรณีที่มีการท้วงติงจีพีเอสซี เกี่ยวกับการเข้าซื้อหุ้นใน บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) หรือ โกลว์ ว่า วัตถุประสงค์สำคัญของการซื้อหุ้นโกลว์ก็เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ สร้างเสถียรภาพด้านไฟฟ้าให้กับผู้ลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และพื้นที่โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) เพิ่มความมั่นใจให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ขณะเดียวกันช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ส่งผลดีทั้งต่อลูกค้าและจีพีเอสซีเอง

“จีพีเอสซีมุ่งเน้นการทำธุรกิจโดยให้ความสำคัญกับการสร้างความมั่นคงและพัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการด้านพลังงานของประเทศ ซึ่งทุกขั้นตอนการดำเนินงานจะต้องมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้และตั้งอยู่บนพื้นฐานด้านจริยธรรมของการทำธุรกิจ โดยพิสูจน์ได้จากผลตอบรับที่ดีของผู้ถือหุ้นต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ รวมถึงลูกค้าที่อยู่นอกกลุ่ม ปตท. ซึ่งคิดเป็น 49 % ต่างให้ความไว้วางใจใช้บริการและให้คะแนนความพึงพอใจในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง”นายเติมชัยกล่าว

นายเติมชัยกล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีข้อกังวลจากลูกค้าบางส่วนของโกลว์นั้น ทางจีพีเอสซีไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยที่ผ่านมาได้มีการชี้แจงสร้างความเข้าใจว่าการเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้ต่อลูกค้าโกลว์ว่าจะไม่ได้รับผลกระทบ โดยเงื่อนไข สัญญาราคาและการบริการลูกค้าทุกราย จะยังคงดำเนินการภายใต้กรอบสัญญาเดิมทุกประการ เพราะธรรมชาติของธุรกิจไฟฟ้าจะเป็นสัญญาระยะยาว มีการระบุถึงราคา ปริมาณซื้อขายที่ชัดเจน ส่วนการกำหนดราคาซื้อขายจะเป็นไปตามราคาตลาด ทั้งนี้สัญญาของลูกค้าโกลว์ที่มีอยู่เฉลี่ยมีระยะเวลามากกว่า 10 ปี

นอกจากนี้จีพีเอสซียังเตรียมจัดทำบันทึกข้อตกลงร่วมกับลูกค้า เพื่อลดข้อกังวลและให้ความมั่นใจว่า จะไม่ให้มีการบริการใดๆ ในลักษณะที่เป็นการเลือกปฏิบัติ โดยไม่เป็นธรรมต่อลูกค้า ขณะเดียวกันก็มีคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) ในฐานะหน่วยงานกลางกำกับดูแลธุรกิจไฟฟ้า คอยตรวจสอบและกำกับการดำเนินการต่างๆ เพื่อให้ความมั่นใจอีกชั้นหนึ่งว่า การดำเนินธุรกิจไฟฟ้าถูกต้อง เป็นธรรม และไม่เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบทางธุรกิจ ซึ่งทั้งจีพีเอสซีและโกลว์ได้มีการให้ข้อมูลกับ กกพ.เพื่อประกอบในการพิจารณาเรียบร้อยแล้ว

Advertisement

“ส่วนข้อกังวลที่ว่าการเข้ซื้อโกลว์ ทำให้เกิดการผูกขาดของกลุ่ม ปตท.ในพื้นที่มาบตาพุดนั้น ขอชี้แจงว่าจีพีเอสซีเป็นบริษัทเอกชนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีกฎระเบียบข้อบังคับที่เข้มงวด มีการดำเนินธุรกิจที่เป็นเอกเทศชัดเจน ดังนั้นการบริการซื้อขายไฟฟ้าและไอน้ำให้กับบริษัทในกลุ่ม ปตท. ก็อยู่ภายใต้ข้อกำหนดและมาตรฐานเทียบเท่ากันกับลูกค้านอกกลุ่ม ปตท.”นายเติมชัยกล่าว 

นายเติมชัยกล่าวว่า อย่างไรก็ตามสถานการณ์ธุรกิจไฟฟ้าของไทยในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก เพราะภาครัฐตามนโยบายของกระทรวงพลังงาน เปิดเสรีให้เอกชนสามารถเข้ามาแข่งขันกันได้มากขึ้น อาทิ การเปิดเสรีนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว(แอลเอ็นจี) เห็นได้จากกรณีของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ผู้ผลิตไฟฟ้าหลักของประเทศ จะเริ่มทดลองนำเข้าแอลเอ็นจีในเดือนตุลาคมนี้ เช่นเดียวกับเอกชนรายอื่นก็เตรียมนำเข้าเช่นเดียวกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image