ล้วงลึก “บก.คอมมานโด” กับ “ต่อศักดิ์ สุขวิมล” (ว่าที่)ผู้การฯ ภารกิจแห่งความจงรักภักดี -หน่วย SWAT รวมคนแกร่งสีกากี!!

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ จัดตั้ง “กองบังคับการถวายความปลอดภัยและปฏิบัติการพิเศษ (บก.ถปพ.)” กองบังคับการใหม่ ภายใต้ “กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บช.ก.)” ที่ยกระดับขึ้นมาจากกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองปราบบังคับการปราบปราม หรือ “คอมมานโด” กองปราบ นั่นเอง

บก.ถปพ.จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นหน่วยงานถวายความปลอดภัยสำหรับองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท พระบรมวงศานุวงศ์ตั้งแต่ชั้นพระองค์เจ้าขึ้นไป ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ผู้แทนพระองค์ซึ่งเป็นพระบรมวงศานุวงศ์ตั้งแต่ชั้นพระองค์เจ้าขึ้นไป และบุคคลที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับเป็นพระราชอาคันตุกะ อีกทั้งยังมีหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษปราบปรามงานอาชญากรรมครอบคลุมทั่วประเทศ

พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รักษาราชการแทนผู้บังคับการกองบังคับการถวายความปลอดภัยและปฏิบัติการพิเศษ(รรท.ผบก.ถปพ.) เปิดเผยกับ “มติชน”ว่า สำหรับโครงสร้างของ บก.ถปพ. มี 10 กองกำกับการ กองกำกับการ 1-6 จะดูแลรับผิดชอบในพื้นที่ต่างๆเหมือนกองบังคับการปราบปราม ซึ่งแบ่งหน้าที่เป็นการถวายความปลอดภัยดูแลความเรียบร้อยให้กับพระองค์เจ้าเมื่อมีขบวนเสด็จฯ รวมถึงการสืบสวนปราบปรามอาชญากรรมตามที่มีหมายจับทุกภาคส่วนของประเทศ กองกำกับการสายตรวจถวายความปลอดภัย ซึ่งรถสายตรวจของกองปราบจะถูกโยกมาอยู่ทางนี้ทั้งหมด กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษหรือหน่วยสยบริปูสะท้านเดิม กองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือ เป็นชุดสืบสวนหลักที่จะทำงานเรื่องการสืบสวนและป้อนข้อมูลแก่หน่วยต่างๆก่อนนำกำลังเข้าตรวจค้น และกองกำกับการอำนวยการ

“ทั้งหมดที่มีจะอยู่ในกองบังคับการเดียวที่ตั้งขึ้นมา มีสายบังคับบัญชาแบ่งเป็น รองผบก.10 นาย ผกก. 10นาย รองผกก.20 นาย สารวัตร 42 นาย รองสว. 122 นาย ผบ.หมู่ 1,410 นาย รวมกำลังพลทั้งหมดประมาณ 1,600 นาย แต่จะไม่มีฝ่ายสอบสวน โดยงานสอบสวนจะมอบหมายให้กับทางกองบังคับการปราบปรามที่เราต้องทำงานร่วมกันอยู่แล้ว”

Advertisement

ว่าที่ผบก.ถปพ.คนแรก อธิบายว่า บก.ถปพ.เปรียบเสมือนหน่วยสวาทของ FBI ที่เราเป็นกำลังเสริมให้ เมื่อที่ไหนมีอาชญากรรมรุนแรงทั้ง 10 กองกำกับการ จะต้องประสานงานกันและลงพื้นที่ปฏิบัติการทั่วราชอาณาจักร เพื่อดูแลความปลอดภัยแก่พี่น้องประชาชน ซึ่งตนเน้นย้ำความสำคัญในส่วนนี้อย่างมาก

“เสียงปืนดังที่ใด เมื่อหน่วยเราลงพื้นที่ตรงนั้นต้องเงียบ และเมื่อพบผู้มีอิทธิพลที่มีอำนาจเหนือประชาชน ผมยอมไม่ได้ ต้องตาต่อตาฟันต่อฟัน และต้องสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดให้ได้ ต้องใช้วิธีเด็ดขาด เป็นถึงกองบังคับการทั้งที ต้องทำให้สะเทือนทั้งวงการ โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่เน้นย้ำเสมอว่าถ้าเจอ เราไปปราบแน่” พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ลั่น
รรท.ผบก.ถปพ. บอกว่า บก.ถปพ.ยังถ่ายเทกำลังพลให้กับหน่วยอื่นภายใต้สังกัดของ บช.ก. อีกด้วย ภายหลังมีอนุมัติจากครม.ให้เพิ่มกำลังตอนนี้ที่มี 556 อัตราและเพิ่มเป็น 1,617 อัตรานั้นจะต้องมีการจัดสรรกำลังพลที่ไม่ได้เกลี่ยคนมาจากที่อื่น แต่กำหนดอัตราขึ้นใหม่ภายใต้คำสั่งของ ก.ตร.ให้มีการยกระดับเพิ่มกำลังพลรับเข้ามาปีละ 200 จนครบ 1,617 คน และปีต่อๆไปเราก็จะรับเพิ่มอีกพร้อมถ่ายเทกำลังไปให้บก.อื่นๆภายใต้สังกัด บช.ก. ที่มีตำรวจปลดเกษียณหรือคนไม่เพียงพอ ดังนั้นจึงเท่ากับว่ายุทธวิธีการฝึกที่เพียบพร้อมของเราได้ช่วยป้อนตำรวจที่มีคุณภาพเข้าสู่หน่วยอื่นๆ

พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ เผยถึงการคัดเลือก ตำรวจบก.ถปพ.ชุดแรก ว่า ได้รับมอบอำนาจให้เป็นผู้คัดเลือก รองผบก.ทั้งหมด โดยต้องดูทั้งทัศนคติและความจงรักภักดี ซึ่งได้คัดเลือกไว้หลักๆหมดแล้ว แต่ยอมรับว่าแต่ละคนที่ได้เลือกไว้นั้นเป็นคนคุ้นเคยและเห็นหน้ากันทุกวัน ไม่มีเรื่องเสียหายแน่นอน ตนรู้จักคนเยอะและรู้ว่านิสัยใจคอใครเป็นอย่างไร ดังนั้นเมื่อเลือกมาแล้วตนจะรับผิดชอบเองทั้งหมด และถ้าจะมีใครได้รับการฝากเข้ามา ก็ต้องผ่านการทดสอบของตน เพราะว่าเรื่องนี้คือสิ่งสำคัญ

Advertisement
“ทุกคนต้องปรับพื้นฐานใหม่ทั้งหมด โดยเฉพาะหัวหน้าหน่วยตั้งแต่สารวัตรขึ้นไปส่วนใหญ่จะจบหลักสูตร “นเรศวร 261″(ของกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน) แทบทั้งหมด นอกจากนี้ต้องผ่านหลักสูตรกระโดดร่มแบบกระตุกเองของค่ายนเรศวร รวมถึงหลักสูตรวีไอพีโปรเทคชั่น ของบช.ก. ต้องฝึกจริงต้องคัดเลือกก่อนเข้า ไม่ใช่มาแล้วเข้าได้ทุกคน เมื่อจบแล้วจะได้รับเข็มเป็นวุฒิบัตรและผู้ที่ได้รับเข็มตัวนี้ก็จะสามารถทำหน้าที่อยู่ในขบวนเสด็จฯได้ เพราะย่อมหมายความว่ามีความรู้ความสามารถและผ่านการฝึกฝนมาอย่างดี” พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ เผยถึงความการคัดเลือกสีกากีแกร่ง มีศักยภาพสูงเข้าหน่วย บก.ถปพ.

 

รรท.ผบก.ถปพ บอกว่า สำหรับเครื่องหมายหรือ อาร์มของ บก.ถปพ. นั้น ก็จะเป็นตราคอมมาโดเหมือนตอนสังกัดกองปราบเหมือนเดิม ตรงกลางจะเป็นโล่ซึ่งหมายถึงอัศวินผู้พิทักษ์ องครักษ์ และตรงกลางโล่ก็จะเป็นดาบ พื้นโล่เป็นสีเลือดหมูดำเป็นสีของตำรวจและมีสายฟ้าฟาดลงมา เปรียบเหมือนความรวดเร็วรุนแรงเฉียบขาด ตัวอักษรก็จะเป็นสีเหลืองที่เป็นประจำรัชกาลฯ
“ผมรู้สึกภาคภูมิใจแทนลูกน้อง ทุกๆวันนี้ไม่มีใครที่อยากขอย้ายไปจากหน่วยนี้(คอมมานโด)เลยเพราะทุกคนสร้างหน่วยนี้มาด้วยกัน ผมพูดเสมอว่าทุกคนใช้สองมือกอบกู้มันขึ้นมา ตชด.ค่ายนเรศวรก็ปลุกปั้นมาจากดินที่คนไม่เห็นค่าอะไร เราผ่านช่วงวิกฤตกันมาหลายครั้งและเหมือนกับก่อนหน้านี้คอมมานโดดูไม่มีค่าอะไร แต่วันนี้ครูฝึกทุกคนผู้ใต้บังคับบัญชาของผมทุกคนที่ปลุกปั้นดินก้อนนี้ขึ้นมาเป็นตุ๊กตาที่สวยงาม และทุกคนก็เห็นคุณค่าจนเป็นที่ยอมรับของพี่น้องประชาชน สิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นความสำเร็จของลูกน้องเรา ไม่ใช่แค่เราคนเดียว ผมแค่กระตุ้นให้เขาแสดงศักยภาพของบุคคลเหล่านั้นออกมาได้อย่างเต็มที่”
“เหมือนกับทีมฟุตบอลเมื่อก่อนอาจจะอยู่ดิวิชั่น 3 แต่วันนี้เราขึ้นมาเป็นดิวิชั่น 1 ผมเป็นโค้ช เก่งหรือเปล่าก็ไม่ใช่ แต่มันอยู่ที่นักเตะตั้งแต่ผู้รักษาประตูไปถึงคนส่งผ้าเย็น ถ้าทุกคนไม่พยายามฝึกกันมาทั้งทีมจะประสบความสำเร็จ และปลื้มปีติที่สุดคือการได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ซึ่งถือเป็นที่สุดแล้ว ไม่มีอะไรที่ยิ่งใหญ่ไปมากกว่านี้ในหน้าประวัติศาสตร์ของคอมมานโด” พ.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ว่าที่ผบก.ถปพ.คนแรก กล่าวทิ้งท้าย

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image