นายรัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม สายงานวาณิชธนกิจ-ด้านตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท ไทย อิงเกอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TIGER) เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาได้เดินสายนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) บริษัทก่อนเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 122.28 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท ของ TIGER ต่อนักลงทุนที่จังหวัดเชียงใหม่ และกรุงเทพมหานคร ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างท่วมท้น เพราะธุรกิจของบริษัทมีความโดดเด่นในฐานะผู้รับเหมารายเล็กที่มีการเติบโตสูง
“TIGER ถือเป็นผู้ประกอบการรับเหมารายเล็กที่มีความโดดเด่นมาก เป็นหุ้น High Growth High Margin จากผลการดำเนินงานย้อนหลังในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา รายได้รวมเพิ่มขึ้นเกือบ 30% ต่อปี ขณะที่กำไรขั้นต้นอยู่ในระดับสูงกว่า 16-18% ต่อปี โดยบริษัทรับดำเนินงานก่อสร้างโครงการทุกประเภทเพราะมีความเชี่ยวชาญด้านงานวิศวกรรมโยธาและวิศวกรรมระบบที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง สามารถรับงานได้หลากหลายทั้งรับเหมาก่อสร้างภาครัฐ โรงแรม รีสอร์ท คอนโดมิเนียม และรับเหมาก่อสร้างบ้านให้กลุ่มลูกค้าไฮเอนด์”
นายจตุรงค์ ศรีกุลเรืองโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย อิงเกอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย อิงเกอร์ จำกัด (TEC ) กล่าวว่า การโรดโชว์ครั้งนี้ทำให้นักลงทุนเข้าใจในธุรกิจของ TIGER โดย TIGER เป็นผู้ประกอบธุรกิจลงทุนบริษัทอื่น (Holding Company) ในธุรกิจรับเหมา ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ ถือหุ้น 99.99% ในบริษัท ไทย อิงเกอร์ จำกัด (TEC) หรือบริษัทแกน (Core Company) ประกอบธุรกิจให้บริการรับเหมาก่อสร้างงานวิศวกรรมโยธาทุกประเภทรวมทั้งงานออกแบบวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม (Construction Contractor – Build & Design) และยังประกอบธุรกิจสนับสนุนงานรับเหมาก่อสร้าง ได้แก่ ธุรกิจออกแบบและผลิต พร้อมติดตั้งอุปกรณ์จากกระจกและอลูมิเนียม สำหรับงานสถาปัตยกรรมและงานตกแต่งดำเนินการโดย บริษัท ทีอีจี อลูมินั่ม จำกัด หรือ TEA ธุรกิจออกแบบและผลิต พร้อมติดตั้งระบบน้ำดีและน้ำเสีย รวมทั้งจัดหาและจำหน่ายวัสดุและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับงานก่อสร้างอื่นๆ ดำเนินการโดย บริษัท ทีอี แมค จำกัด หรือ TEM
นายจตุรงค์ กล่าวว่า หลังระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) จะทำให้ฐานะทางการเงินของบริษัทมีความแข็งแกร่ง เพิ่มโอกาสการเข้าประมูลงานภาครัฐและเอกชน ทำให้ในช่วง 3-5 ปีข้างหน้าจะเติบโตอย่างโดดเด่น และมั่นใจ TIGER จะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน
