กรุงไทยมองเศรษฐกิจหนุนเอกชนออกหุ้นกู้8.5แสนล้านบ. เปิดระบบมันนี่คอนเน็กท์อำนวยสะดวกลูกค้าจองซื้อออนไลน์เอง

นายรวินทร์ บุญญานุสาสน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ผู้บริหารสายงานธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวคาดว่าจะส่งผลต่อการระดมทุนผ่านตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชน(เอกชน) จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปี 2561 คาดว่าจะมีการออกตราสารหนี้ภาคเอกชนประมาณ 8.5 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากในปี 2560 มีการออกตราสารหนี้ระยะยาวถึง 8.2 แสนล้านบาท ทั้งนี้ ธนาคารจึงได้พัฒนาระบบ Money Connect by Krungthai ขึ้น ซึ่งเป็นระบบเดียวที่สามารถจองซื้อหลักทรัพย์ผ่านระบบออนไลน์ได้ด้วยตนเอง ตามยุทธศาสตร์ในการก้าวสู่ Future Banking  ทำให้ทุกการลงทุนเป็นไปด้วยความรวดเร็ว มีประสิทธิภาพและสะดวกสบาย ทั้งการจองซื้อหุ้นกู้ หน่วยลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือหน่วยลงทุนอื่นๆ โดยลูกค้าของธนาคารสามารถทำธุรกรรมได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่านโทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์ โดยไม่ต้องไปที่สาขาอีกต่อไป

นายรวินทร์ บุญญานุสาสน์ กล่าวว่า ธนาคารนำระบบ Money Connect by Krungthai  มาให้บริการครั้งแรกสำหรับการจองซื้อกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (Thailand Future Fund :TFFIF) ระหว่างวันที่ 12 – 19 ตุลาคม 2561 โดยธนาคารตั้งเป้าภายใน 2 ปี จะมีกลุ่มลูกค้ารายย่อย และนักลงทุน High Net-Worth ของธนาคาร หันมาใช้บริการจองซื้อหลักทรัพย์ผ่านระบบ Money Connect by Krungthai ไม่ต่ำกว่า 30% จากการจองหลักทรัพย์โดยผ่านสาขาของธนาคารแบบดั้งเดิม

นายรวินทร์ กล่าวด้วยว่าผู้ลงทุนที่ประสงค์ใช้ระบบ Money Connect by Krungthai สามารถเข้าสู่ระบบได้ 3 ช่องทาง ได้แก่ https://www.moneyconnect.ktbnetbank.com  หรือ http://www.ktb.co.th หรือ สแกน QR Code Money Connect by Krungthai โดยสามารถลงทะเบียน กรอกข้อมูลส่วนตัว และทำแบบประเมินความเสี่ยงการลงทุน หลังจากนั้น สามารถจองซื้อหลักทรัพย์ได้ด้วยตนเอง และชำระเงินผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย โดยไม่ต้องนำส่งใบจองซื้อหรือเอกสารแนบให้กับธนาคาร รวมทั้งผู้ลงทุนสามารถตรวจสอบสถานะการจองแบบเรียลไทม์ได้อีกด้วย

นอกจากนี้ ธนาคารยังได้ออกแบบระบบให้มีความมั่นคงปลอดภัยเป็นไปตามมาตรฐานการให้บริการ Internet Banking โดยใช้ระบบรักษาความปลอดภัย SSL (Secure Sockets Layer) ระดับ 128 bits (128-bit Encryption) ทำให้ผู้ที่ดักจับข้อมูลระหว่างทาง ไม่สามารถนำข้อมูลไปใช้ต่อได้ ซึ่งเป็นระบบที่ได้รับการตรวจสอบและรับรองจากบริษัทที่มีชื่อเสียงและมีมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้งธนาคารมีการทำ Data Encryption กับข้อมูลที่มีความสำคัญมาก เช่น รหัสผ่านส่วนตัว (Password) โดยผ่านกระบวนการเข้ารหัส ใช้ Algorithm ที่ซับซ้อนก่อนเก็บข้อมูลในระบบ เป็นการเข้ารหัสข้อมูลทางเดียว เพื่อใช้เทียบเคียงข้อมูลที่ได้จากลูกค้าเท่านั้น เพื่อป้องกันการนำข้อมูลไปใช้โดยไม่สุจริต

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image