นับถอยหลังไปอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะกลายเป็นมหานครระบบรางอย่างแน่นอน โดยสิ่งหนึ่งที่จะต้องพัฒนาควบคู่กันไปด้วย คือ การพัฒนาสถานีกลางเพื่อเชื่อมต่อการเดินทางจากระบบรางไปยังขนส่งสาธารณะอื่นๆ ให้มีประสิทธิภาพ
ปัจจุบันการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) อยู่ระหว่างก่อสร้าง “สถานีกลางบางซื่อ” เพื่อใช้งานทดแทนสถานีหัวลำโพง และเป็นการเชื่อมต่อการเดินทางในทุกระบบ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟธรรมดา รถไฟฟ้า รถไฟฟ้าใต้ดิน รถไฟความเร็วสูง รถเมล์ และรถ บขส. เป็นต้น มีกำหนดจะแล้วเสร็จในปี 2563 เมื่อถึงตอนนั้นก็จะกลายเป็นสถานีที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน
การพัฒนาในลักษณะนี้ในหลายประเทศเริ่มทำกันมานานแล้ว ล่าสุด ได้เดินทางไปดูงานที่สถานีกรุงโรม ซึ่งเป็นสถานีกลางใหญ่สุดในประเทศอิตาลี บริหารงานโดยบริษัท ทางรถไฟแห่งชาติอิตาลี (Ferrovie dello Stato Italiane S.p.A.) หรือ FS
สถานีนี้ดูกว้างขวางพอสมควร มีทางเข้า-ออกหลายทาง ร้านค้ามากมาย มีการเชื่อมต่อกับระบบขนส่ง สาธารณะอื่นๆ ได้สะดวกสบาย
ภายในสถานีมีตู้อัตโนมัติไว้ให้ซื้อตั๋วโดยสารเป็นจำนวนมาก การให้บริการของที่นี่จะมีแบ่งช่องพิเศษให้กับผู้ที่มีตั๋วโดยสารรถไฟความเร็วสูงในชั้นบิซิเนสคลาส และเฟิร์สคลาสด้วย
สถานีนี้เปิดมาได้ 5 ปี มีผู้โดยสารเข้าใช้บริการเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทมีรายได้จากการขนส่งผู้โดยสารและการขนส่งสินค้าประมาณ 1,700 ล้านยูโรต่อปี (อัตราแลกเปลี่ยน 1 ยูโร เท่ากับประมาณ 38 บาท)
สำหรับการลงทุนก่อสร้างสถานีและระบบโครงสร้างพื้นฐานทางราง รัฐบาลอิตาลีเป็นผู้ลงทุน และให้ทางบริษัท ทางรถไฟแห่งชาติอิตาลี ลงทุนจัดหาขบวนรถมาให้บริการและบริหารจัดการต่างๆ ซึ่งจะแตกต่างจาก รฟท.ที่ลงทุนและบริหารจัดการเอง
นอกจากนี้ ยังได้เข้าไปดูศูนย์ควบคุมการเดินรถซึ่งตั้งอยู่บริเวณพื้นที่เดียวกับสถานีกรุงโรม และที่สำนักงานใหญ่ของบริษัท ทำให้ทราบว่า ศูนย์ดังกล่าวมีการควบคุมดูแลระบบขนส่งทั้งหมดรวมระยะทาง 1.6 หมื่น กม. มีรถไฟ 2,195 สถานี และสถานีขนส่ง 208 แห่ง เพราะบริษัทดำเนินธุรกิจแบบครบวงจรทั้งการขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร มีรถไฟฟ้าใต้ดิน รถไฟธรรมดา และถนน
เมื่อสถานีกลางบางซื่อเปิดบริการในปี 2563-2564 หวังว่าจะได้รับความสะดวกสบายและทันสมัยไม่น้อยหน้าอิตาลี!!
นายขันตี
