ผู้เขียน | ไตร 27 |
---|
ปี่กลองการเมืองเริ่มโหมโรง
เห็นเค้าลางการต่อสู้ระหว่างฟาก“ท็อปบู๊ท”กับ นักการเมือง“ขั้วอำนาจเก่า”ที่ครองอำนาจมายาวนานชัดเจน
โดยเฉพาะ”เพื่อไทย”เซียนสนามเลือกตั้ง เที่ยวนี้”นายใหญ่”สั่งลุย
ยิ่งช่วงนี้”คีย์แมนคนแดนไกล”มาตั้งฐานที่มั่น”ฮ่องกง”พลพรรคเดินทางเข้า-ออกคึกคัก
วงหารือ’บิ๊กเนม’ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ฮ่องกง ถก ประเด็นทิศทางเพื่อไทย และพรรคสำรอง
เพื่อดิ้นรนหาทางออกกับ”กติกา”ที่คสช.สร้างขึ้นมาเพื่อ ตัด ตอน พรรคการเมืองใหญ่
เดินยุทธศาสตร์ “แยกกันเดิน ร่วมกันตี” ให้บัตรเลือกตั้งใบเดียวมีกับประโยชน์กับตัวเองมากที่สุด
เวลานี้รับรู้กันว่า มีการเปิดอีก 2 ค่าย ค่ายแรก “เพื่อธรรม” นำโดยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้า และนางนลินี ทวีสิน “สายตรงจันทร์ส่องหล้า” ร่วมดูแล
ว่ากันว่าพรรคนี้อยู่ในร่มเงาของ”เจ๊”ใหญ่แห่งภาคเหนือ ที่แยกตัวออกมาเพราะไม่อยากทับรอยกับ”เจ๊เมืองกรุง”ที่ปักหลักอยู่เพื่อไทย
และหวังจะเก็บแต้มคะแนนบัญชีรายชื่อ รวมทั้งยังเป็นค่ายสำรองฉุกเฉิน เผื่ออุบัติเหตุ”ยุคพรรคเพื่อไทย” คำรบสาม
เหตุจากกรณีกก.บห.ขึ้นเวทีวิพากษ์วิจารณ์ผลงานรัฐบาล”บิ๊กตู่” และ คสช. ครบ 4 ปี อาจเป็นประเด็นกล่าวหาผิดกฎหมายความมั่นคงหรือไม่
ค่ายสอง”เพื่อชาติ” ที่มี พี่น้องเสื้อแดงทั้งหลายร่วมด้วยช่วยกัน นำขบวน โดย ตู่- นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายยงยุทธ ติยะไพรัช และนักธุรกิจที่เป็นสปอร์เซอร์สถานที่ให้”คนเสื้อแดง”
ล่าสุด”ทักษิณ”พูดถึงการเตรียมพรรคอื่นนอกเหนือจาก 2 พรรคเพื่อไว้อีกพรรคหนึ่ง คิดว่าอีกไม่นานจะเปิดตัว
นอกจากนี้เมื่อสแกนยังพบอีกว่า มี พรรคพลังปวงชนชาวไทย ที่ตอนนี้เริ่มตั้งไข่แล้ว มีข่าวแพลมว่า จะเริ่มจดแจ้งพรรคเร็วๆนี้
แย้มมาแล้วว่า คนกุมบังเหียนพรรคนี้คือ “บิ๊กตุ้ย” พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ญาติผู้พี่ของนายทักษิณ ชินวัตร
นอกนั้น มี พรรคเสรีรวมไทย ที่มีเล็ดลอดออกมาอยู่ อยู่ภายใต้อดีตบิ๊กสีกากี ที่มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับ”นายใหญ่”เช่นกัน
รวมทั้งพรรคประชาชาติ ที่ถือว่าเป็นพันธมิตรกันกับเพื่อไทย มี “อาจารย์วันนอร์” วันมูหะมัดนอร์ มะทา กลุ่มวาดะห์ อดีตแกนนำเพื่อไทย นั่งหัวหน้าพรรค
และ “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” อดีตเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ (ศอ.บต.) เลขาธิการพรรค
“ประชาชาติไทย”หวังจะกวาดต้อนคะแนนเสียงในจังหวัดชายแดนภาคใต้เฉพาะ
สำหรับที่มาก็การวางกลยุทธ”แยกกันเดิน ร่วมกันตี”
เนื่องจากปิดช่องข้อเสียของ”กติกาใหม่” กาบัตรเลือกตั้งใบเดียว
ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การเลือกตั้งวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 นี้ กากบาทผู้สมัคร ส.ส.คนไหน เท่ากับกากบาทให้พรรคนั้นด้วย
คะแนนคนหรือคะแนนพรรค จะเป็น “คะแนนสะสม” ของพรรคนั้นๆ รวมทั้งประเทศ
ปิดหีบและนับคะแนนเสร็จแล้ว
จะนำคะแนนทั้ง 350 เขต ของทุกคน-ทุกพรรค ทั้งแพ้-ชนะ มานับรวมกัน ได้เท่าไหร่ หารด้วย 500 (จำนวนส.ส.เขต 350 + ส.ส.บัญชีรายชื่อ 150)
สมมุติตัวเลขกลมๆ คะแนนรวมทั้ง 350 เขตของทุกพรรคได้ 40 ล้าน(40,000,000)เสียง
เอา 40,000,000 หาร 500 = 80,0000
พรรคไหน ได้คะแนนรวมทั้งประเทศเท่าไหร่ เอา 80,0000 ไปหาร ได้ผลลัพธ์ นั่นคือ จำนวน ส.ส.ที่พรรคนั้นจะพึงมีได้กี่คน
สมมุติ พรรค A ได้ 12,000,000 ล้านคะแนน เอา80,0000 หาร จะพึงมี ส.ส.ได้ 150
แต่ผลเลือกตั้งออกมาส.ส.พรรค A ได้ส.ส.เขต 120 คน
อยากรู้ว่า พรรค A จะได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์สักกี่คน?
ก็เอา 150-120 = 30 คือจำนวนปาร์ตี้ลิสต์
ยกตัวอย่างชัดๆเข้าไปอีก กรณีเลือกตั้ง ปี 2554 พรรคเพื่อไทยได้ 15,000,000 เสียง ได้ส.ส.เขต 205 เสียง + ปาร์ตี้ลิสต์ได้อีก 61 คน รวม 265 คน
แต่ระบบใหม่ ถ้านับคะแนนแล้วพรรคเพื่อไทย จะพึงมีส.ส.ได้ 187 คน
แต่จากการเลือกตั้ง เพื่อไทยได้ ส.ส.เขตถึง 204 คน เรียกว่าคะแนน เกินไป 17
ดังนั้น เพื่อไทยจะไม่ได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ เหมือนอย่างที่ได้ในปี2554 อีก 61 ส.ส.
สรุป เพื่อไทยมี ส.ส.เพียง 204 คน ในระบบเขตเท่านั้น
ที่สำคัญการเลือกตั้งครั้งนี้จะไม่มีพรรคไหน ได้ส.ส.ถึง 250 เพื่อจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้เลย
เพราะยิ่งได้ ส.ส.เขตมาก ยิ่งไม่ได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เลย
พรรคไหนได้ 80,000 คะแนน แม้ไม่ได้ส.ส.เขตเลย แต่จะได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์แล้ว 1 คน
นั่นจึงเป็นที่มา”เพื่อไทย”พลิกเกมสู้ “แตกเซลล์”เก็บทุกคะแนน