แรกที่ปรากฏภาพการเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อธรรม ผ่าน นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ แรกที่ปรากฏภาพการเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อชาติ ผ่าน นายจตุพร พรหมพันธุ์
มองเห็นว่าเป็นความขัดแย้ง แตกแยก
มีการขยายไปไกลถึงระดับ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ สัมพันธ์กับ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และชี้ว่านี่คือหวอดแห่งความไม่พอใจที่ดำรงอยู่ภายในพรรคเพื่อไทย
เช่นเดียวกับกรณีของพรรคเพื่อชาติ
เริ่มต้นจากที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ไปนั่งแถลงข่าวร่วมกับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ จึงมีการประเมินว่าเป็นการสวนทางไม่เพียงแต่กับ นางธิดา ถาวรเศรษฐ หากหมายรวมไปถึง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ด้วยซ้ำ
แต่เมื่อทิศทางการจัดตั้ง 1 เพื่อเป็นพรรคสำรองหากพรรคเพื่อไทยถูกยุบ และ 1 เพื่อแยกกันเดินเพื่อสงวนและรักษากำลังทางการเมืองเท่ากับเป็นการดำเนินกลยุทธ์ “ยืมหอกสนองคืน”
ความหงุดหงิดจึงเริ่มปรากฏ
ความหงุดหงิดที่ปรากฏสะท้อนจากการหยิบเอาเนื้อหาเก่ากระหน่ำเข้าใส่ พรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อธรรม และพรรคเพื่อชาติ
นั่นก็คือ เห็นว่าเป็น “นอมินี”
คงจำได้ว่าทฤษฎีนอมินีทางการเมืองลักษณะนี้ถูกโหมประโคมตั้งแต่ก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 และต่อเนื่องมายันก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
โดยมี “ทักษิณ” เป็น “สารตั้งต้น”
ความพยายามในการรุกไล่ให้ กกต.เล่นงานพรรคเพื่อธรรม พรรคเพื่อชาติในข้อหาว่าถูกครอบงำและดำรงอยู่ในลักษณะ “นอมินี”
นั่นแหละคือ อาการแห่งความหงุดหงิด ไม่พอใจ
กลายเป็นเรื่องหนักใจเป็นล้นพ้นหาก กกต.จะเล่นงานพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อธรรม พรรคเพื่อชาติในข้อหาเป็น “นอมินี” และถูกครอบงำพร้อมกัน 3 พรรค
ตรงนี้แหละคือ ฤทธิ์จากกลยุทธ์ “ยืมหอกสนองคืน”
แรกที่การรื้อฟื้นพรรคเพื่อธรรมเป้าหมายหลักน่าจะเพราะความหวาดเกรงว่าพรรคเพื่อไทยอาจถูกเล่นงานจนถึงขั้นยุบพรรค
จึงจำเป็นต้องมี “พรรคสำรอง”
แต่แล้วยิ่งเมื่อศึกษารายละเอียดการเลือกตั้งแบบใหม่โดยกระบวนการบัตรเบอร์เดียวและมีผลทั้งระดับเขตและระดับบัญชีรายชื่อ
ก็เริ่มมองเห็น “ช่องทาง” ที่อาจเป็นคุณ
ทาง 1 ศึกษาข้อดีจากการขับเคลื่อนพรรคประชาชาติโดยเน้นเป้าหมายไปยังกลุ่มมุสลิมและ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ทาง 1 ศึกษาช่องโหว่จากระบบการเลือกตั้งแบบใหม่
ผลก็คือการขยายบทบาทของพรรคเพื่อธรรม และกลายเป็นอีกวิถีทางหนึ่งของการเลือกผ่านพรรคเพื่อชาติ
ทั้งหมดนี้คือ “หอกสนองคืน” ไปยัง “รัฐธรรมนูญ”
หากมองภาพการไหวเคลื่อนจาก 1 พรรคเพื่อไทย ไปยัง 1 พรรคประชาชาติ ประสานเข้ากับ 1 พรรค เพื่อธรรม และ 1 พรรคเพื่อชาติ
นี่คือ กระบวนการของพันธมิตรในแนวร่วม
ด้านหลักของยุทธศาสตร์ยังอยู่ที่ ส.ส.ระบบเขตโดยมีพรรคเพื่อไทยเป็นตัวนำ ด้านรอง คือ ส.ส.ระบบเขตประสานเข้ากับ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ
รอก็แต่เพียง “อนาคตใหม่” จะสดใส แค่ไหน เพียงใด