เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ชาวบ้านและนักท่องเที่ยว แห่แช่น้ำพุร้อนเค็ม ที่บ้านควนสระ-ท่าคลอง หมู่ที่ 4 ต.ท่าพญา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ซึ่งกลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรฯ บ้านควนสระ นำเงินจำนวน 200,000 บาท ตามโครงการไทยนิยมยั่งยืน มาพัฒนาบ่อน้ำพุร้อนเค็ม ให้กลายเป็นบ่อที่มีขนาดความกว้าง 3 เมตรและยาว 6 เมตรจำนวน 2 บ่อ ความลึกตั้งแต่ 50-80 เซนติเมตร มีอุณหภูมิประมาณ 38-40 องศา โดยเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวลงไปแช่เท้าและลงอาบน้ำมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตั้งแต่เวลา 03.00 น.-11.00 น. โดยปิด 4 ชั่งโมง คือตั้งแต่เวลา 11.00 น.-15.00 น. เพื่อพักน้ำให้เขียวใสก่อนจะเปิดให้บริการต่อในเวลา 15.00 น.เป็นต้นไป
ส่วนความโชคดีอีกอย่างหนึ่งคือมีคลองน้ำจืดอยู่ห่างจากบ่อน้ำพุเพียง 30 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถลงไปล้างตัวได้อย่างสะดวกสบาย จึงทำให้ได้รับความสนใจจากชาวบ้านและนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้ป่วยด้วยโรคเหน็บชา โรคเกี่ยวกับเส้น ผิวหนัง และข้อเข่า เชื่อว่าความร้อนของน้ำจะทำให้เลือดลมไหลเวียนดี ทั้งยังช่วยลดความอ้วนและทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส เส้นทางเข้าออกสะดวกสบาย ทำให้มีนักท่องเที่ยวแห่เที่ยวจนกลายเป็นอันซีนแห่งใหม่ใน จ.ตรัง ซึ่งน้ำพุร้อนเค็มที่บ้านควนสระ-ท่าคลองแห่งนี้ ผุดขึ้นมานานกว่า 100 ปีแล้ว แต่ไม่ได้รับการพัฒนา จนกระทั่งได้รับงบประมาณจากโครงการไทยนิยมยั่งยืน ชาวบ้านจึงลงความเห็นว่าควรจะมีการขยายบ่อน้ำพุร้อนเค็ม ซึ่งเป็นของดีของตำบลท่าพญาให้กว้างใหญ่ขึ้นเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว สร้างงานสร้างรายได้เข้าหมู่บ้าน โดยใช้วัสดุที่หาได้ง่าย และได้ตั้งตู้รับบริจาคจากชาวบ้าน เพื่อนำเงินส่วนนี้มาพัฒนาบ่อน้ำพุร้อนเค็มให้ได้มาตรฐานมากขึ้น ส่วนเส้นทางไปบ่อน้ำพุร้อนเค็มห่างจากตัวเมืองตรังประมาณ 40 กิโลเมตรถึงบ้านควนสระจะมีป้ายบอกทาง เลี้ยวซ้ายเข้าไปอีกประมาณ 1.5 กิโลเมตรก็จะพบกับบ่อน้ำพุร้อนเค็มซึ่งอยู่ติดถนน
ด้านนายอับดุลการีม ใจสมุทร ที่ปรึกษากลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จ.ตรัง กล่าวว่า บ่อน้ำพุร้อนเค็มนี้มีมาร่วม 100 ปีแล้วแต่ไม่ได้รับการพัฒนา ซึ่งแต่ละวันจะมีชาวบ้านมาใช้บริการไม่ต่ำกว่า 150 คน โดยเชื่อว่าสามารถลดความอ้วนได้ โรคเส้นเลือดขอด ปวดเมื่อย มือเท้าชา นิ้วล็อค หรือสปาผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง โดยพบตาน้ำพุร้อนแห่งใหม่ใหญ่กว่าที่แห่งนี้ แต่ยังไม่ขอเปิดเผยอีก 1 แห่งด้วย
