เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ที่กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รักษาราชการแทนผู้บังคับการกองปราบปราม(รรท.ผบก.ป.) อำนวยการ พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ต.ธนศักดิ์ ปราสาททอง สว.กก.1 บก.ป. นำกำลังจับกุม นายเสกสิทธิ์ ขาวพลับ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20/531 ซ.เลียบคลองสอง 27 แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กทม. ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 163/2559 ลงวันที่ 23 มิถุนายน 2559 ข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า หรือ เมทแอมเฟตามัน ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่ พยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติหน้าที่ และยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร สามารถจับกุมตัวได้ที่ หน้าร้านขายวัสดุก่อสร้าง เลิฟ ฮาร์ดแวร์ เลขที่ 66/132 หมู่บ้านพระปิ่น 3 หมู่ที่ 16 ถ.กาญจนาภิเษก ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี
สำหรับการจับกุมครั้งสืบเนื่องจากเมื่อ 9 มิถุนายน 2559 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส.3ได้สืบทราบว่าจะมีเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ จ.เชียงราย ลักลอบขนลำเลียงยาเสพติดส่งต่อไปยังพื้นที่ กทม. ก่อนจะมีการแวะเปลี่ยนถ่ายรถกระบะเป็นรถยนต์เก๋ง กันที่ จ.ชัยนาท เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด บช.ปส.3 จึงนำกำลังเฝ้าติดตาม เรื่อยมาจนกระทั่งถึงบริเวณสี่แยกไฟแดงหนองกุฏิ ต.พลับพลาไชย อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าทำการจับกุม แต่ระหว่างนั้นคนร้ายขัดขืนพยายามขับรถหลบหนีจึงใช้อาวุธปืนยิงสกัดจนคนร้ายต้องยอมทิ้งรถไว้ในที่เกิดเหตุ ก่อนคนร้ายจะใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเปิดทางวิ่งหลบหนีไปได้ ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. รายหนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกยิงเข้าที่บริเวณขาขวาและเท้าซ้ายรวม 2 นัด ทั้งนี้จากการตรวจสอบภายในรถยนต์ของคนร้ายพบว่ายาบ้าบรรจุอยู่ภายในถุงกระสอบจำนวน 8 กระสอบรวมทั้งสิ้น 800,000 เม็ด มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท ซุกซ่อนอยู่ที่เบาะหลังของรถคันดังกล่าว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุดังกล่าวนั้นคือนายเสกสิทธิ์ ผู้ต้องหารายนี้จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ พร้อมทั้งนำรายชื่อบรรจุอยู่ร่วมในปฏิทินหมายจับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติจนกระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบทราบว่าหลังก่อเหตุนายเสกสิทธิ์ได้หลบหนีมาทำงานอยู่ที่ร้านขายวัสดุก่อสร้างแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี จึงนำกำลังไปติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว
จากการสอบสวน นายเสกสิทธิ์ ให้การรับสารภาพ โดยยอมรับว่าที่ก่อเหตุยิงต่อสู้ขัดขวางเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส.3 นั้น เพราะว่าหากถูกจับกุมจะต้องถูกรับโทษทางคดีหนักเนื่องจากของกลางยาเสพติดมีจำนวนมาก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน บช.ปส.3 รับตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
