นายยงยุทธ จันทรโรทัย อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน(พพ.) เปิดเผยว่า ในการจัดประชุมรัฐมนตรีพลังงานอาเซียน ครั้งที่ 36 ในระหว่างวันที่ 28 -30 ตุลาคม นี้ ที่ประเทศสิงคโปร์ นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จะนำคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) พร้อมภาคเอกชนไทย เตรียมเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีพลังงานอาเซียน พร้อมนำคณะผู้ประกอบการไทยเตรียมเข้ารับรางวัลอาเซียน เอเนอร์ยี่ อวอร์ด 2018 นับเป็นความสำเร็จของไทยอีกครั้ง ที่สามารถคว้ารางวัลด้านพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานในเวทีอาเซียน ได้สูงสุดเป็นอันดับ 1 รวม 21 รางวัล เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ที่ได้ 19 รางวัล โดยครั้งนี้มีผลงานที่ส่งเข้าประกวดจำนวน 25 ผลงาน ซึ่งถือเป็นความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยในการส่งเสริมและพัฒนาด้านพลังงานทดแทนและการอนุรักษ์พลังงาน จนเป็นที่ยอมรับของประเทศสมาชิกในอาเซียน โดยเฉพาะความก้าวหน้าในการพัฒนานวัตกรรมพลังงานทางเลือกต่างๆ ทั้งในหน่วยงานภาครัฐและเอกชน
สำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัล จากเวทีการประกวด อาเซียน เอเนอร์ยี่ อวอร์ด 2018 เป็นรางวัลทางด้านพลังงานทดแทน ด้านอนุรักษ์พลังงาน โดยแบ่งเป็น 4 ประเภท รางวัลที่ได้รับในครั้งนี้ ประกอบไปด้วย 1.การบริหารจัดการพลังงานดีเด่น ได้รับรางวัล รวมจำนวน 6 รางวัล 2.อาคารอนุรักษ์พลังงานดีเด่น ได้รับรางวัล รวม 1 รางวัล 3.อาคารเขียวดีเด่น ได้รับรางวัล รวม 1 รางวัล 4.โครงการพลังงานหมุนเวียนดีเด่น ได้รับรางวัล รวม 13 รางวัล
นายยงยุทธกล่าวว่า ความสำเร็จของการเข้ารับรางวัลทั้งสิ้น 21 รางวัลในเวทีอาเซียน เป็นผลมาจาก พพ. ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมให้ภาครัฐและเอกชนร่วมกันตระหนักถึงการอนุรักษ์พลังงานและการใช้พลังงานทดแทนในไทยมาอย่างต่อเนื่อง ตามยุทธศาสตร์กระทรวงพลังงาน ภายใต้ แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก หรือ เออีดีพี 2015 โดยผ่านเวทีการประกวด อาเซียน เอเนอร์ยี่ อวอร์ด ขึ้นเป็นประจำทุกปี ซึ่งในปีนี้ มีผู้ชนะการประกวด 69 ผลงาน จากจำนวนผู้ส่งผลงานเข้าประกวด 268 ผลงาน ผ่านหลักเกณฑ์การประกวด ไทยแลนด์ เอเนอร์ยี่ อวอร์ด ใน 5 ด้าน ได้แก่ ด้านพลังงานทดแทน ด้านอนุรักษ์พลังงาน ด้านบุคลากร ด้านพลังงานสร้างสรรค์ และด้านผู้ส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน ส่งผลให้ผลงานที่ส่งเข้าประกวดในครั้งนี้ ทำให้ประเทศไทยสามารถประหยัดพลังงานรวมมากกว่า 730 ล้านบาทต่อปี และสามารถลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า 140,000 ตันต่อปี
