รายงานข่าวจากกรุงมิลาน ประเทศอิตาลี แจ้งว่า ในการประกวดคัสตอมรถมอเตอร์ไซค์นานาชาติ หรือแบทเทิล ออฟ เดอะ คิงส์ 2018 (Battle of the Kings 2018) ภายในงานอิคมา ไบค์ แอนด์ มอเตอร์ไบค์ส 2018 (EICMA Bikes and Motorbikes Exhibition 2018) ณ กรุงมิลาน ประเทศอิตาลี เมื่อเร็วๆ นี้ ทีมฮาร์ลีย์-เดวิดสัน จากกรุงเทพฯ คว้าชัยเป็นผลสำเร็จ ได้ครองตำแหน่งแกรนด์ แชมเปี้ยนส์ (Grand Champions)
ผลงานในชื่อ เดอะ ปรินซ์ (The Prince) คัสตอมรถรุ่นสตรีตบ๊อบ (Street Bob) เพื่อนำเสนอการตีความนิยามมอเตอร์ไซค์ ช้อปเปอร์ (Chopper) ในยุค 70 ใหม่ ถือเป็นการเข้าร่วมแข่งขันการประกวดครั้งแรกของประเทศไทย
Battle of the Kings คือการประกวดคัสตอมรถมอเตอร์ไซค์ จัดขึ้นสำหรับผู้จำหน่ายฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ทั่วโลก ปี 2018 มีทีมผู้จำหน่ายมากกว่า 300 ทีมจากมากกว่า 30 ประเทศทั่วโลกส่งผลงานเข้าประกวด กติกาการประกวดคือต้องคัสตอมรถฮาร์ลีย์-เดวิดสัน โดยใช้ชิ้นส่วนและอุปกรณ์ตกแต่งไม่น้อยกว่า 50% เป็นอุปกรณ์ตกแต่งแท้จากฮาร์ลีย์-เดวิดสัน และเปิดให้สาธารณชนร่วมโหวต ปรากฏว่ามีผู้ร่วมโหวตมากถึง 150,000 เสียง เพื่อคัดเลือกผู้ชนะของแต่ละประเทศหรือแต่ละภูมิภาค หลังจากนั้น คณะกรรมการประกอบด้วยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญทั้งสื่อมวลชนระดับโลกและเหล่านักคัสตอมมอเตอร์ไซค์ ร่วมคัดเลือกผลงานผ่านเข้ารอบ 3 ทีมสุดท้าย
ผลปรากฏว่า ผู้ผ่านเข้ารอบตัดสินได้แก่ ผลงานแบ๊ก ทู เดอะ แทรค (Back to the Track) ใช้รถรุ่นโรดสเตอร์ (Roadster) จากเมืองอะเดเลด ออสเตรเลีย, ผลงานฟาร์ม แมชชีน (Farm Machine) จากเมืองโบโลญญา อิตาลี และ ผลงานเดอะปรินซ์ จากกรุงเทพฯ ประเทศไทย
สำหรับหน้าที่การเลือกผู้ชนะเลิศ เป็นของทีมงานมืออาชีพจากแผนกการกำหนดรูปแบบและดีไซน์ ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน นำโดยแบรด ริชาร์ดส์ รองประธานฝ่ายการกำหนดรูปแบบและดีไซน์ แบรด ริชาร์ดส์
“การคัดเลือกผู้ชนะเลิศนับว่าใกล้เคียงกันมาก แต่การเก็บเส้นสายที่สะอาดตาและระบบวิศวกรรมที่สวยงามของผลงาน The Prince ก็คว้ารางวัลไปในที่สุด หากก็เฉือนชนะไปด้วยคะแนนโหวตเพียงคะแนนเดียวเท่านั้น” แบรด ริชาร์ดส์ กล่าว
ทีมฮาร์ลีย์-เดวิดสัน จากกรุงเทพฯ ใช้รถรุ่นสตรีตบ๊อบ (Street Bob) มีแนวคิดการตกแต่งเพื่อหวนรำลึกถึงอดีต และนำพาความทรงจำของรถคันโปรดในอดีตกลับมาสู่ปัจจุบัน โดยได้แรงบันดาลใจมาจากรถมอเตอร์ไซค์ Chopper ในยุค 70 นำมาดัดแปลงด้วยการตัดบังโคลนหน้าและหลัง เพื่อทำให้รถเพรียวบางและสะอาดตาขึ้น ผสานกับการตกแต่งด้วยชิ้นส่วนจากรถฮาร์ลีย์-เดวิดสัน รุ่นอื่นๆ
อาทิ ถังน้ำมันจากรุ่นโฟร์ตี้-เอท (Forty-Eight) และด้ามมือจับของรุ่นโรดสเตอร์ (Roadster) ส่วนล้อหน้า 21 นิ้วและล้อหลัง 16 นิ้ว 5 หมุดที่เป็นแบบคัสตอม ทำให้รูปทรงรถเอนลู่ลงและนำสายตาสู่แนวเส้นของเบรก ถังน้ำมัน และจัดเก็บสายไฟที่ทำให้มอเตอร์ไซค์มีเส้นสายที่เรียบง่ายสบายตา
การเพนต์โทนสีดำและทองแบบคลาสสิกยังช่วยสร้างความโดดเด่น สะท้อนถึงภาพลักษณ์ของรถ Chopper และเสื้อแจ๊กเก็ตหนังสีดำ ส่วนสีทองนั้นสะท้อนถึงมงกุฎคู่ควรกับการเป็นเจ้าชาย หรือ The Prince เมื่อพิจารณาใกล้ๆ จะเห็นว่าส่วนเครื่องยนต์ถูกไฮไลต์ด้วยการเคลือบผงทองทั้งบนท่อก้านกระทุ้ง ส่วนร็อกเกอร์ บ็อกซ์ อินเสิร์ตส (Rocker box inserts) และตะแกงกรองอากาศ ชิ้นส่วนเหล่านี้จะเคลือบโครเมียมก่อนเคลือบทับด้วยผงทองเพื่อสร้างเอฟเฟ็กต์ส่องประกาย
ส่วนเบาะนั่งถูกปรับรูปร่างใหม่และบุใหม่ด้วยหนังแท้ เสริมแนวตะเข็บด้ายสีเหลืองเพื่อให้แลดูเหลือบทอง นอกจากนี้ยังมีการใช้ฝาครอบเดอร์บี้และฝาครอบไทม์มิ่งด้วยทองเหลือง (Brass Collection) เพื่อลดความเป็นโครเมียมของมอเตอร์ไซค์ลง ขณะที่จานเบรกแบบลอยและก้านเบรกสีดำ ก้านพักเท้าและแฮนด์มือจับชุบผิว ช่วยเพิ่มลุคแบบโมเดิร์นและทรงพลัง
สำหรับงาน Battle of the Kings 2019 จะทวีความยิ่งใหญ่กว่าเดิม เนื่องจากทีมจากประเทศสหรัฐอเมริกาจะเข้าร่วมชิงบัลลังก์เจ้าแห่งการคัสตอมรถเป็นครั้งแรก จะทำให้มีทีมผู้จำหน่ายมาลงแข่งขันมากยิ่งขึ้นและใช้รถหลากหลายรุ่นมากขึ้น รวมถึงตระกูลทัวร์ริ่ง (Touring) และมีการใช้ชิ้นส่วนและอุปกรณ์ตกแต่งมากกว่าเดิม
