สภาเกษตรกรแห่งชาติ เตรียมเปิดตัวองค์กร “แคนนาบิส” หนุนปลดล็อกกัญชา ช่วยรักษาโรคผู้ป่วย

นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เปิดเผยว่า สภาเกษตรกรฯ มีความสนใจเรื่องกัญชารักษาโรคมาหลายปี เพราะเกษตรกรเป็นโรคเรื้อรังยิ่งเกษตรกรใช้ยาเคมีสารเยอะจะเจ็บป่วยและเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลสูงมาก ดังนั้นสภาเกษตรกรฯ จึงอยากเห็นเกษตรกรสามารถที่จะบำบัดตนเองได้ด้วยกัญชา เพราะว่าพิสูจน์มานานแล้วว่าได้ผล ที่สำคัญคือต้นทุนไม่แพงและกัญชายังเป็นโอกาสของเกษตรกรสามารถสร้างอาชีพที่มั่นคง สร้างรายได้ให้กับตนเองและประเทศชาติ

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สภาเกษตรกรแห่งชาติจึงจัดประชุมเครือข่ายที่สนใจเรื่องกัญชารักษาโรค ทั้งแพทย์ ผู้มีความชำนาญ มีความรู้ และเกี่ยวข้องกับพืชกัญชาเพื่อรักษาโรค เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยสภาเกษตรกรแห่งชาติเห็นว่าควรมีการจัดตั้งเป็นองค์กรเพื่อขับเคลื่อนร่วมกันผลักดันนโยบายให้เป็นจริงและเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยอย่างแท้จริง โดยใช้ชื่อกลุ่มองค์กรว่า “แคนนาบิส เพื่อการป้องกัน รักษาโรค (MEDICAL CANNABIS ORGANIZATION)” โดยจะมีการประชุมหารือและเปิดตัวองค์กรฯ ในวันที่ 21 พฤศจิกายนนี้

“ปัจจุบันกัญชาที่ซื้อ-ขายในตลาดโลกคุณภาพดีกิโลกรัมละหลายหมื่นบาท อย่างเช่น กัญชาที่ผลิตจาก สปป.ลาว ก็มีราคาอย่างน้อยกิโลกรัมละ 5,000 บาท ซึ่งประเทศไทยสามารถสร้างความมั่งคั่งได้จากพืชเกษตรกัญชาได้ อย่างไรก็ตาม หลายเดือนที่ผ่านมาภาครัฐเหมือนจะยอมรับและปลดล็อกการใช้กัญชารักษาโรค แต่ยังมีหน่วยงานที่ข้องเกี่ยวซึ่งมีหน้าที่โดยตรงพยายามบิดเบือนเรื่องที่สภาเกษตรกรแห่งชาติพยายามนำเสนอมาตลอด และจะเป็นการเปิดโอกาสให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่เข้ามาหาประโยชน์จากสารสกัดกัญชารักษาโรค” นายประพัฒน์กล่าว

นอกจากนี้ การเปลี่ยนกัญชา และกระท่อม จากยาเสพติดประเภท 5 ให้เป็นยาเสพติดตามบัญชีรายชื่อประเภท 2 ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษที่มีประโยชน์ทางการแพทย์นั้น หลังจากที่ศึกษาแล้วพบว่า กัญชา กลายเป็นสารเสพติดประเภทเดียวกับมอร์ฟีน ที่บรรเทาอาการเจ็บปวด ซึ่งโทษแรงมากและสั่งโดยแพทย์แผนปัจจุบันสกัดโดยบริษัทข้ามชาติเท่านั้นจึงจะสามารถขึ้นทะเบียนได้

Advertisement

“สำหรับเรื่องบริษัทข้ามชาติเท่านั้นถึงขึ้นทะเบียนได้ สภาเกษตรกรแห่งชาติไม่เห็นด้วย เพราะเห็นว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อทุนใหญ่และบริษัทข้ามชาติ รวมทั้งขั้นตอนการขึ้นทะเบียนยา การขออนุญาต ยุ่งยากเกินกว่าเกษตรกรและผู้ประกอบการในประเทศไทยจะเข้าถึงได้ ถ้าปล่อยไปผู้ป่วยทั่วไปจะไม่มีโอกาสเข้าถึงยากัญชารักษาโรคเลยนอกจากคนมีเงินเท่านั้น” นายประพัฒน์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image