เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ที่ จ.ตรัง นายลือชัย เจริญทรัพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า หลังจากกรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศแจ้งเตือนเรื่องพายุดีเปรสชั่นบริเวณทะเลจีนใต้ ส่งผลให้ภาคใต้มีฝนมากขึ้น ระหว่างวันที่ 19-21 พฤศจิกายน อาจส่งผลทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่ม บริเวณที่ลุ่มต่ำ พื้นที่ริมแม่น้ำ และพื้นที่ลาดเชิงเขา และวันที่ 19 พฤศจิกายน ตนจะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์ ซึ่งทางชลประทานที่ 16 สงขลา และชลประทานจังหวัดตรังมาพบ ได้นำข้อมูล รวมทั้ง รายละเอียดการขุดลอกเส้นทางน้ำคลองผันน้ำแม่น้ำตรัง ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร ที่เกิดความล่าช้ากับสัญญาโครงการที่ทำไปประมาณ 40% ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร โดยทางชลประทานที่ 16 สงขลามีการชี้แจงรายละเอียด
“ผมบอกว่าวันที่ 19 พฤศจิกายน ให้มาประชุมประเมินสถานการณ์เส้นทางน้ำ ปริมาณน้ำที่ไม่ได้ดูเฉพาะตรังอย่างเดียว จะต้องดูปริมาณน้ำที่ จ.นครศรีธรรมราชด้วย เนื่องจากในส่วนนี้ อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช เขตรอยต่อ จ.ตรัง ซึ่งเป็นเส้นทางน้ำไหลเข้า จ.ตรัง ในส่วนของพื้นที่ที่ต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องของภัยพิบัติการป้องกันนั้น โดยก่อนที่จะเกิดภัยให้สำรวจอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือทั้งหมด โดยทางป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งขณะนี้มีการตรวจสอบความพร้อมแล้ว” นายลือชัย กล่าว
นายลือชัยกล่าวอีกว่า โดยเฉพาะจุดเสี่ยงที่เกิดขึ้นเป็นประจำว่ามีบทเรียนอะไรบ้าง ซึ่งจะต้องถอดบทเรียนตรงจุดนั้นมา ในขณะที่เกิดภัย ตนได้วางมาตรการไว้ตามที่เป็นข้อสั่งการของกระทรวงมหาดไทยอยู่แล้ว ถ้าเกิดความเดือดร้อนกับพี่น้องประชาชน ทางจังหวัดขอพระเมตตาเปิดครัวพระราชทาน ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำกันตามปกติ อย่างไรก็ตาม ต้องขอความร่ววมือทุกภาคส่วนที่มีหน้าที่รับผิดชอบก็ขอให้เตรียมความพร้อมเมื่อเกิดภัยแล้วไม่ใช่ต่างคนต่างทำ ตนได้ย้ำเสมอว่าให้ตรวจอุปกรณ์เครื่องมือให้พร้อมที่จะใช้งานเมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้น
