ตร.รวบสาวอินโด รูดทรัพย์นักท่องเที่ยว ปฏิเสธไม่ได้มอมยาชาวอินเดียดับ แฉก่อเหตุหลายคดี

เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า รองผู้บัญชการตำรวจภูธรภาค 5 แถลงข่าวการจับกุมนางลินดา เวลลิช  อายุ 54 ปี สัญชาติอินโดนีเซีย หลังถูก สภ.จันทบุรี และเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี จับกุมตัวไว้ได้ขณะเดินทางย้อนกลับเข้าประเทศไทยอีกครั้ง เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหามีหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่ คดีที่ จ.572/2561ลงวันที่ 29 สิงหาคม 2561 ในฐานความผิด ฆ่าผู้อื่น ,ชิงทรัพย์ ,ลักทรัพย์ และใช้บัตรอิเลกทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ

ทั้งนี้เมื่อวันที่วันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ พบศพนายทารัก บาร์ท ฮามัส ชาวอินเดีย อายุ 56 ปี เสียชีวิตในสภาพน้ำลายฟูมปาก ภายห้องพัก 304 โรงแรมแห่งหนึ่งย่านถนนช้างคลาน กลางเมืองเชียงใหม่ บนหัวเตียงพบแก้วกาแฟที่ดื่มหมดแล้ว 1 แก้ว จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่าผู้ตายพาหญิงสาวชาวต่างชาติ รูปร่างท้วม ไว้ผมสั้นมาเปิดห้องพักที่เกิดเหตุ ก่อนที่หญิงคนดังกล่าวจะหลบหนีไป

ต่อมาวันที่ 21 สิงหาคม นายจีน เบอร์ อูฟกัง อายุ 69 ปี สัญชาติอเมริกัน นักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน ถูกมอมยารูดทรัพย์ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในย่านตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ โดยสภาพของนายจีนนอนหมดสติน้ำลายฟูมปากอยู่ภายในห้องพัก แพทย์ได้ช่วยเหลือจนอาการปลอดภัย และจากการสอบสวนนายจีน แจ้งว่า พบหญิงสาวคนนี้ที่บาร์เบียร์แห่งหนึ่ง ก่อนจะพามาเปิดห้องและหญิงคนดังกล่าวสั่งกาแฟมาให้ดื่ม ก่อนจะหมดสติและถูกขโมยทรัพย์สินไป

เจ้าหน้าที่สืบสวนและเชื่อว่าหญิงที่ก่อเหตุน่าจะเป็นคนเดียวกัน จึงรวบรวมพยานหลักฐานก่อนขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมประสานกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยวทั่วประเทศ ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา ซึ่งคาดว่าหลังก่อเหตุได้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว ก่อนที่จะเดินทางย้อนกลับเข้ามาประเทศไทยและถูกจับกุมได้ดังกล่าว

Advertisement

พล.ต.ต. ชูรัตน์ กล่าวว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหารับสารภาพว่าไปกับผู้ตายจริงและขโมยทรัพย์สินของผู้ตายไป แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้มีการวางสลบ หรือยาพิษอื่นๆ ยาที่ทำให้เสียชีวิตเป็นยาปลุกอารมณ์ทางเพศ ที่ผู้ตายนำมากินด้วยตัวเอง ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังรอผลการตรวจสอบยาที่พบในที่เกิดเหตุ รวมทั้งในกระเพาะของผู้เสียชีวิตอีกครั้ง หากพบว่าเป็นยาพิษก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องหา

รายงานข่าวแจ้งว่าจากการตรวจสอบประวัติของนางลินดาพบว่าเคยก่อเหตุมาแล้ว 3 ครั้ง ในพื้นที่ สภ.เมืองขอนแก่น เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2560 ผู้เสียหายเป็นชาวอังกฤษ พื้นที่ สภ.เมืองอุดรธานี เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2561 ผู้เสียหายเป็นชาวเยอรมัน เหตุเกิดที่อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี และ พื้นที่ สภ.นครบาลลุมพินี เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2561 ผู้เสียหายเป็นชาวเยอรมัน

Advertisement

ด้านนาย BUK HTAR BHAT อายุ 42 ปี ชาวอินเดีย น้องชายของนายทารัก บาร์ท ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า พี่ชายทำธุรกิจขายพรมในจังหวัดเชียงใหม่ ทราบว่าพี่ชายพบกับผู้ต้องหาที่โรงแรมก่อนจะนัดหมายมาคุยและดื่มกาแฟ จากนั้นช่วงบ่ายก็ออกไปจากร้าน กระทั่งถึงเวลาประมาณ 23.00 น. วันเกิดเหตุตนมารับพี่ชายที่ร้านแต่ไม่พบตัว และไม่สามารถติดต่อได้ เพราะพี่ชายไม่ได้นำโทรศัพท์ติดตัวไปด้วย กระทั่งช่วงเช้าของอีกวันก็ยังติดต่อพี่ชายไม่ได้ จึงเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนที่ช่วงเย็นจะได้รับการติดต่อกลับมาว่าพี่ชายเสียชีวิตแล้ว ซึ่งทรัพย์สินที่พี่ชายนำตัวตัวไปมีแหวนหยก และบัตรเครดิต

ภาพผู้ต้องหาชาวอินโดนีเชีย
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image