แม่ทัพภาค4 สั่งปลดทหารพรานปืนดุ! พร้อมส่งตัวดำเนินคดีเหตุยิงถล่มบ้านอดีตภรรยา

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน จากกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตะโหมด จ.พัทลุง รับแจ้งเหตุ นายสาโรจน์ จันตรี อายุ 50 ปี อาสาสมัครทหารพราน หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 จ.ปัตตานี พร้อมเพื่อน 1 คน ก่อเหตุใช้อาวุธปืนสงครามของทางราชการยิงถล่มบ้านเลขที่ 20 ม.4 ต.คลองใหญ่ อ.ตะโหมด จ.พัทลุง ซึ่งเป็นบ้านของนางสุกิจ ชัยรัตน์ อายุ 49 ปี อดีตคนรักได้รับความเสียหาย เหตุเกิดเมื่อช่วงดึกวันที่ 24 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

ล่าสุด พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 มีคำสั่งให้ปลดทหารพรานที่ก่อเหตุทันที โดยให้สอบประวัติพฤติกรรมย้อนหลัง ก่อนส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่ดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยหลังก่อเหตุ อส.ทพ.สาโรจน์ ได้เดินทางเข้ารายงานตัวกับ พ.อ.หาญพล เพชรม่วง ผบ.ฉก.หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 43 (ต้นสังกัด) และรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง โดยมีการสรุปคำให้การถึงสาเหตุที่ใช้อาวุธปืนสงครามถล่มยิ่งบ้านดังกล่าวไว้คือ

1.เกิดความคับแค้นใจ เนื่องจากตนเองทราบว่าอดีตภรรยา (ไม่ได้จดทะเบียนสมรส) คบหามา 10 ปี ซึ่งตนเองได้ดูแลอุปการะ รวมถึงร่วมซื้อบ้านที่เกิดเหตุและทรัพย์สินอื่นๆ ให้ ต่อมาเมื่อ 3 เดือนก่อนหน้านี้ทราบว่าอดีตคนรักได้คบหากับผู้ชายคนอื่นในทำนองชู้สาวและนำมานอนภายในบ้านหลังดังกล่าว

2.สาเหตุการก่อเหตุเนื่องจากตนเองได้ซื้อปืนลูกซองยาว ที่เป็นผู้จดทะเบียนครอบครองอยู่ในบ้านที่เกิดเหตุ จึงขอลาเพื่อที่จะไปเอาปืนคืน แต่ไม่พบบุคคลในบ้าน ต่อมาเวลา 11.00 น.วันที่ 24 พ.ย.ได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันว่าปืนดังกล่าวสูญหายไว้ที่ สภ.ตะโหมด จ.พัทลุง จนมาถึงเวลาช่วงบ่ายจนถึงกลางคืนได้กลับไปอีกครั้งและสอบถามคนข้างบ้านแจ้งว่าไม่มีคนอยู่ จึงบันดาลโทสะและใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มเข้าไปยังบ้านที่เกิดเหตุ

Advertisement

ทั้งนี้การดำเนินการของหน่วยหลังการรายงานตัวก็ได้ปลด อส.ทพ.สาโรจน์ ออกทันทีและนำตัวพร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุส่งให้กับร้อย.เวร สภ.ตะโหมด ดำเนินคดีตามกฎหมาย

พ.อ.หาญพล เพชรม่วง ผบ.หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 43 กล่าวว่า อส.ทพ.สาโรจน์ จันทร์ปี อายุ 50 ปี ไปก่อเหตุยิงใส่บ้านอดีตภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียนจริง จากการสอบถามเมื่อช่วงเช้าที่ได้กลับมารายงานตัวที่หน่วยนั้นได้รับสารภาพว่าไปก่อเหตุจริง เนื่องจากเกิดการบันดาลโทสะ โดยได้มีการขออนุญาตลากิจเพื่อไปทวงอาวุธปืนลูกซองยาวของตนเองที่อยู่ในบ้านอดีตภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียนคืน

ซึ่งยังเป็นการให้การเพียงข้างเดียวว่าอดีตภรรยานั้นยังเอาผู้ชายคนอื่นเข้ามาอยู่ด้วย จากคำให้การยังบอกว่าก่อนก่อเหตุได้ไปแจ้งความที่ สภ.ตะโหมด ไว้ก่อนตอนเวลา 11.00 น. จนถึงบ่ายถึงเย็นได้ออกสอบถามคนรู้จักข้างบ้านทราบว่าอาวุธปืนที่สูญหายนั้นถูกผู้ชายที่เป็นชู้เอาออกจากบ้านไปแล้ว ก็ไปสอบถามคนแถวบ้านทราบว่าไม่มีใครอยู่บ้าน จึงใช้อาวุธปืนที่พกพามาด้วยยิงใส่บ้านหลังนั้นด้วยความโมโหและเกิดจากบันดาลโทสะ เพระคิดว่าเขาโดนหักหลังจากคนที่เขารัก รวมถึงการที่อดีตภรรยามีชายคนใหม่

Advertisement

พ.อ.หาญพล กล่าวว่า หลังก่อเหตุเสร็จ อส.ทพ.สาโรจน์ก็กลับมารายงานตัวที่หน่วยทันทีในช่วงตอนเช้าพร้อมรับสารภาพ โดยปัจจุบันได้ประสานทางพนักงานสอบสวน สภ. ตะโหมดก่อนจะนำตัวพร้อมอาวุธปืนที่ก่อเหตุส่งให้กับ สภ.ตะโหมดตั้งแต่ช่วงเวลา 10.00 น.ที่ผ่านมา ซึ่งการลงโทษของต้นสังกัดข้างต้นกล่าวหาว่าขัดต่อการปฏิบัติงานที่โดยมิชอบ ใช้ความเป็นทหารพรานทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนและปลดประจำการเรียบร้อยแล้ว ตามคำสั่งของ พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image