เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ที่อาคารยู ทาวเวอร์ คณะกรรมการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด (สคจ.) จัดประชุมร่วมกับสหกรณ์เจ้าหนี้ 74 แห่ง เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาการชำระหนี้ของ สคจ. โดยนายธีระ วงษ์เจริญ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ สคจ. มีปัญหาด้านสภาพคล่องในการชำระหนี้คืน เนื่องจากรอขายทรัพย์สิน จึงได้ขอพักชำระหนี้จากสหกรณ์เจ้าหนี้ซึ่งได้เห็นชอบแล้ว ทั้งนี้เพื่อแก้ไขปัญหาในระยะยาวของระบบสหกรณ์ทั้งหมดจึงจะมีการขอแหล่งเงินทุนสนับสนุนจากรัฐบาล โดยในวันที่ 4 ธันวาคมนี้ คณะทำงานของ สคจ. ภายใต้สันนิบาตรสหกรณ์แห่งประเทศไทย จะมีการประชุมร่วมกับนายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อสรุปเรื่องแหล่งเงินทุนก่อนนำเสนอขอความเห็นชอบจากนายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต่อไป จากนั้นจะมีการนำเสนอให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาภายในเดือนธันวาคม 2561 นี้ ขณะนี้แนวทางและสรุปทางเลือกในการสนับสนุนเงินทุนจากรัฐบาล โดยเบื้องต้นมี 3 แนวทาง คือ 1.ให้รัฐบาลออกพันธบัตรจำหน่ายให้แก่สหกรณ์ที่มีศักยภาพเพื่อนำเงินมาเข้ากองทุนพัฒนาสหกรณ์ซึ่งกองทุนนี้มีหน้าที่ช่วยเหลือสหกรณ์ที่ขาดสภาพคล่อง จึงสามารถนำมาช่วยเหลือสคจ. ได้ 2. ให้รัฐบาลมีการแก้ไขกฎหมายสหกรณ์เพื่อให้กองทุนพัฒนาสหกรณ์สามารถออกพันธบัตรจำหน่ายแก่สหกรณ์ รัฐวิสาหกิจ เอกชน เพื่อนำเงินเข้ากองทุนฯ และ3. รัฐบาลจัดสรรเงินงบประมาณอุดหนุนกองทุนพัฒนาสหกรณ์ โดยมีวงเงินมากเพียงพอที่จะให้สหกรณ์กู้ยืมไปขยายกิจการ และนำผลตอบแทนส่วนหนึ่งส่งกลับมาสมทบเข้ากองทุน ผ่านโครงการบัญชีร่วมเพื่อรักษาเสถียรภาพระบบสหกรณ์ คาดหวังว่าจะสามารถการแก้ไขปัญหาของ สคจ. ให้แล้วเสร็จก่อนการเลือกตั้งในปี 2562
นายเผด็จ มุ่งธัญญา ประธานที่ปรึกษา สคจ. กล่าวว่า ขณะนี้ สคจ. ชำระหนี้ไปแล้วทั้งสิ้น 16% จากมูลหนี้ทั้งเต้าหนี้สหกรณ์และรายย่อย 17,000 ล้านบาท หากรัฐบาลไม่เข้ามาช่วยเหลือด้านเงินทุนสหกรณ์คลองจั่นอาจจะไปไม่รอดเพราะจะมีการผิดนัดชำระหนี้กับเจ้าหนี้ ซึ่งแนวทางที่ได้นำเสนอเรื่องแหล่งเงินทุนสนับสนุนมีการหารือกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องหลายครั้ง ยืนยันว่าจะไม่ประสงค์ที่จะนำเงินภาษีประชาชนมาให้ สคจ. ใช้หนี้ และจะใช้ความช่วยเหลือจากสหกรณ์ต่างๆ ช่วยเหลือกันเพราะนอกจาก สคจ. ยังมีสหกรณ์อื่นอีกกว่า 400 สหกรณ์จาก 8,000 สหกรณ์ที่ขนาดสภาพคล่อง เชื่อว่าไม่มีสหกรณ์ไหนที่อยากให้ สคจ.ล้ม เพราะเป็นสหกรณ์ที่ใหญ่ที่สุด และเชื่อว่ารัฐบาลจะให้ความช่วยเหลือและเห็นคุณค่าของระบบสหกรณ์ เพราะ สคจ. หากล้มจะกลายเป็นโดมิโนและกระทบต่อเสถียรภาพระบบสหกรณ์ที่ตั้งมากว่า 100 ปี
นายทอง วิริยะจารุ ประธานสันนิบาตรสหกรณ์แห่งประเทศไทย และประธานเจ้าหนี้สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีการประเมินค่าทรัพย์สินของสคจ. และทรัพย์ที่ยึดมาได้ว่าจะครอบคลุมมูลหนี้แต่ข้อเท็จจริงเมื่อไปดูกลายเป็นหุ้นที่ไม่มีมูลค่าส่วนหนึ่งอละยังมีทรัพย์สินที่ขายไม่ได้ เมื่อ สคจ. ขาดสภาพคล่อง ดังนั้น เห็นด้วยที่จะให้มีการพักชำระหนี้อาจจะระยะ 2-3 ปี แต่เงื่อนไขสำคัญที่สหกรณ์เจ้าหนี้ต้องการ คือ ไม่อยากตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจากหนี้ที่ยังไม่ได้รับชำระ เพราะการสำรองหนี้ฯ จะกระทบรายได้ทางบัญชีของสหกรณ์
รายงานข่าวจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงานว่า กรณีที่สหกรณ์เจ้าหนี้จะจะผ่อนปรนให้ สคจ. พักชำระหนี้ได้ และสหกรณ์เจ้าหนี้ไม่ต้องตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญที่จะกระทบกับผลการดำเนินงานและกำไร นั้น สคจ.จะต้องทำหนังสือถึงอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ให้เห็นชอบ ซึ่งในหนังสือต้องมีความชัดเจน 2 เรื่อง คือ 1.วิธีการใช้หนี้ว่าจะดำเนินการอย่างไร และ 2. จะนำเงินมาหนี้มาใช้ได้เมื่อไร ถ้า 2 เรื่องชัดเจนจะสามารถผ่อนปรนได้ แต่ถ้าไม่ชัดเจนจะต้องตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ
