เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ออกแถลงการณ์คัดค้านการเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้า 70 บาท และขอทวงทางเท้าคืนจากบันได ขึ้น-ลงสถานีรถไฟฟ้า หลังจากกระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วง และสายสีน้ำเงินสูงสุดถึง 70 บาท จากช่วงราคามาตรฐานปัจจุบัน 14 -42 บาทนั้น ถือเป็นการใช้อำนาจบีบบังคับเอาเงินมาจากกระเป๋าประชาชนอย่างเลือดเย็น ทั้งที่ รฟม.เป็นองค์กรของรัฐที่ควรที่จะเน้นการบริการสาธารณะเป็นหลักมากกว่าการแสวงหากำไรในยุคเศรษฐกิจถดถอย
“ที่สำคัญประชาชนต้องเสียสละและเสียโอกาสจากการที่ต้องเผชิญกับวิกฤตจราจรตลอดระยะเวลาของการก่อสร้างเส้นทางรถไฟฟ้าดังกล่าว รฟม.ควรจะนำมาคิดชดเชยให้ประชาชน โดยไม่คิดราคาค่าโดยสารเกินไปกว่าค่าครองชีพและรายได้ขั้นต่ำของประชาชนใน กทม.ที่มีค่าแรงเพียงวันละ 325 บาทเท่านั้น หากจะใช้บริการรถไฟฟ้าไปกลับเพียงรอบเดียว แทบจะไม่เหลือเงินกินข้าวในแต่ละวัน ถ้ารัฐบาลนี้รักประชาชนจริงต้องกำหนดราคาใหม่สูงสุดไม่เกิน 42 บาทเท่าปัจจุบัน”
แถลงการณ์ ระบุว่า นอกจากนั้นการที่รัฐบาลโดย กทม.อนุญาตให้รถไฟฟ้าสายต่างๆ ใช้ทางเดินเท้าหรือฟุตบาธเป็นบันได้ขึ้น-ลงสถานีรถไฟฟ้านั้น ปรากฏว่ามีการปล่อยปละละเลยให้รถไฟฟ้าสายต่างๆ ทั้งสายสีน้ำเงิน สายสีเขียว ที่กำลังก่อสร้างในขณะนี้ยึดพื้นที่ฟุตบาธของประชาชนที่ใช้เดินสัญจรทั่วไปไปทำทางขึ้น-ลงรถไฟฟ้ากินพื้นที่เกือบจะทั้งหมด ทำให้เหลือพื้นที่สำหรับประชาชนใช้เดินบนทางเท้าบางจุด เหลือไม่ถึง 1-2 ฟุตทำให้เวลาเดินต้องเบียดเสียด ในขณะที่บันไดขึ้น-ลงรถไฟฟ้ากลับขยายอย่างกว้างขวางเกินความจำเป็น กรณีดังกล่าวเป็นการเอาเปรียบประชาชนคนใช้ทางเท้าที่ไม่ได้เป็นลูกค้าของรถไฟฟ้าแต่อย่างใด และถือว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับรถไฟฟ้าจนเกินเหตุ
นายศรีสุวรรณกล่าวว่า ขอเรียกร้องถึงกระทรวงคมนาคม รฟม. และ กทม.ทบทวนและสั่งให้มีการปรับแบบและสั่งรื้อทางขึ้นลงรถไฟฟ้าทุกสายทั้งของรัฐและเอกชนทั้งในปัจจุบันและสายต่างๆ ในอนาคต ให้ลดขนาดบันไดขึ้น-ลงรถไฟฟ้าให้เหลือ 50% จากความกว้างของทางเท้า เพื่อประโยชน์ของคนเดินเท้าเป็นหลัก ทั้งนี้หากรถไฟฟ้ายังคงใช้อำนาจรัฐในการเอาเปรียบประชาชนคนเดินเท้าสมาคมจะร่วมกับประชาชนฟ้องศาลปกครอง เพื่อระงับและรื้อถอนแบบของทางขึ้น-ลงรถไฟฟ้าที่เอาเปรียบคนเดินเท้าต่อไป
