‘ไทยรักษาชาติ’ ลงพื้นที่รับสมัครสมาชิกพรรค- แนะ’บิ๊กตู่’ เก็บอาการระมัดระวังคำพูด

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 2 ธันวาคม ที่วัดราษฎร์ศรัทธาธรรม ร.ท. ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารและแกนนำพรรค ได้ลงพื้นที่จัดกิจกรรมรับสมัครสมาชิกด้วยรถรับสมัครสมาชิกเคลื่อนที่ โดยก่อนที่คณะจะเริ่มเดินแจกใบสมัครนั้น ร.ท.ปรีชาพล และคณะ เข้าไหว้พระหลวงพ่อโสธรเพื่อขอพรด้วย

จากนั้นเวลา 10.30 น. ได้เริ่มแจกใบสมัครให้กับประชาชนโดยคณะได้เริ่มเดินแจกใบสมัครสมาชิกจากบริเวณวัดราษฎร์ศรัทธาธรรมไปยังรถรับสมัครสมาชิกเคลื่อนที่จอดอยู่บริเวณนิรันดร์คอนโด ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนมารอต้อนรับเป็นจำนวนมาก รวมทั้งมีแกนนำพรรคคนสำคัญมาร่วมรับสมัครสมาชิกพรรคด้วย อาทิ นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายพิชัย นริพทะพันธุ์ นายประภัสร์ จงสงวน เป็นต้น นอกจากนี้ยังมี เติร์ท The Face Men Thailand มาร่วมเป็นกำลังใจในการมารับสมัครสมาชิกพรรคในครั้งนี้ด้วย

ทั้งนี้ ร.ท.ปรีชาพล ให้สัมภาษณ์ถึงการแบ่งเขตเลือกตั้งของกกต. ว่า ตนเห็นในหลายเขตเลือกตั้งแล้วก็รู้สึกไม่สบายใจในฐานะพรรคการเมืองและนักการเมือง เพราะหากการแบ่งเขตไม่มีความเชื่อมโยงกับประชาชนก็จะเกิดปัญหาได้ ยกตัวอย่างกรณีเขตเลือกตั้งที่จ.สุโขทัย เมื่อไปดูภูมิประเทศก็รู้สึกสงสารแทนประชาชนไม่มีแท้กระทั่งถนนที่จะเชื่อมติดต่อกัน ซึ่งกกต.ควรจะต้องคำนึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ขอเน้นย้ำว่าจากนี้จนถึงวันเลือกตั้งทำอะไรก็ตามขอให้คำนึงถึงประชาชนเป็นหลัก เพราะว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการสะท้อนให้เห็นถึงความจริงใจว่าประเทศไทยจะกลับสู่ประเทศที่เป็นประชาธิปไตยคืนโอกาสให้ประชาชน

เมื่อถามถึงท่าทีและปฏิกริยาของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับการเรื่องการแบ่งเขต ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า การเป็นผู้นำประเทศ รีแอคชั่นและท่าทีคำพูดคำจำก็ต้องระมัดระวัง เพราะไม่ใช่แค่คนไทยที่จับจ้อง แต่สังคมโลกและผู้นำประเทศอื่นๆก็กำลังจับจ้องอยู่ด้วย ดังนั้นท่าทีของพล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะที่เป็นนายกฯก็อยากขอให้อดทนสักนิด เข้าใจว่าอาจมีอารมณ์ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจากการแบ่งเขตก็เกิดจากคำสั่งของท่านคือคำสั่งที่ 16/2561 ก็เป็นต้นเหตุที่ต้องถามถึงที่มาที่ไปและก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่คุณกระทำลงไป

Advertisement

เมื่อถามว่า มีการมองว่าอาจมีการรื้อเขตเลือกตั้งใหม่หรืออาจเลื่อนการเลือกตั้ง ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า วันนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง สิ่งที่จะทำให้เกิดความเสียหายมากที่สุดคือความเชื่อมั่น ถ้าหากว่ารัฐบาลเข้าไปแทรกแซงหรือเข้าไปดำเนินการแทรกแซงการทำงานของกกต.และทำให้การเลือกตั้งขยับออกไปประเทศชาติเสียหาย การแบ่งเขตที่ผ่านมาก็เป็นที่เคลือบแคลงสงสัย แต่ตนคิดว่ามันเลยจุดนั้นมาแล้ว เพราะว่าจะแบ่งอีกก็ได้ เพราะมันเป็นอำนาจที่คุณได้รับความคุ้มครองโดยมาตรา 44 แต่ขอเน้นว่าการเลือกตั้งไม่สมควรเลื่อนแล้วเพราะประชาชนรอไม่ได้

เมื่อถามว่า จากท่าทียังมีความหวังว่าการเลือกตั้งจะบริสุทธิ์ ยุติธรรมหรือไม่ ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า ก็ต้องมีความหวัง วันนี้ประชาชนต้องมีความหวัง ขอเรียกร้องไปยังผู้มีอำนาจโดยเฉพาะกกต.ให้จัดการเลือกตั้งด้วยความโปร่งใสและเป็นธรรม เราเสียโอกาสมามากพอแล้ว เราไม่มีเวลามานั่งทะเลาะกันแล้ว เราต้องเดินหน้าประเทศไทย ปัญหาที่รุมเร้าประชาชนที่สุดก็คือปัญหาเศรษฐกิจ ตนเชื่อมั่นว่าหลังจากการเลือกตั้ง ถ้าหากว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเป็นฝ่ายประชาธิปไตย เชื่อว่าภายใน 6 เดือนหรือ 1 ปี สามารถแก้ไขปัญหาได้เป็นรูปธรรมแน่นอน ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับประชาชน

“การเลือกตั้งวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นการเลือกตั้งที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ถ้าฝ่ายประชาธิปไตยชนะเราก็จะเปลี่ยนแปลงประเทศไปด้วยกันให้ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพมีโอกาสในการทำมาหากิน มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่หากอีกฝ่ายหนึ่งชนะ พี่น้องประชาชนก็จะจมอยู่ในวังวนแบบนี้กับดักแบบนี้ จึงอยากเชิญชวนประชาชนว่า 24 กุมภาพันธ์ 2562 เข้าคูหาเอาปากกากาคนที่ท่านรักพรรคที่ท่านชอบ ”

Advertisement

เมื่อถามถึงพรรคพลังประชารัฐมีความชัดเจนในการผลักดันพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า ตนคิดว่ามันก็เป็นกระบวนการเป็นขั้นตอน เขาเตรียมตัวไว้และเตรียมที่จะเปิดตัวออกมา คนที่ติดตามข่าวการเมืองคงจะไม่สงสัย ว่าถ้าหากพรรคพลังประชารัฐจะเชิญพล.อ.ประยุทธ์ มาเป็นหนึ่งในบัญชีรายชื่อนายกฯก็เป็นสิทธิของท่าน แต่ถามประชาชนก่อนว่าจะให้เป็นหรือไม่ ส่วนพรรคไทยรักษาชาตินั้น กำลังพิจารณาอยู่ ขอให้ประชาชนสบายใจได้ พรรคเรามีบุคลากรมากมายที่มีคุณภาพและศักยภาพ ซึ่งอาจจะมากกว่า 3 คนด้วยซ้ำในการได้รับการเสนอชื่อในบัญชีรายชื่อนายกฯเพื่อให้ประชาชนได้พิจารณา

เมื่อถามย้ำว่า รวมถึงหัวหน้าพรรคด้วยหรือไม่ ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า ถ้าคณะกรรมการบริหารพรรคเห็นชอบเช่นนั้นก็ยินดี ส่วนการพิจารณาคัดเลือกผู้สมัครนั้น ขณะนี้เริ่มกระบวนการแล้ว ทางคณะกรรมการสรรหากำลังเร่งดำเนินการทั้งการรับชื่อผู้ที่เสนอตัวลงสมัครส.ส. หรือท่านอื่นที่สมาชิกเสนอตัว หลังจากได้รายชื่อก็จะพิจารณาคุณสมบัติ และจัดทำบัญชีรายชื่อเพื่อเอาบัญชีรายชื่อของผู้ที่แสดงเจตจำนงส่งลงพื้นที่เพื่อรับฟังความเห็นจากหัวหน้าสาขา ตัวแทนพรรคประจำจังหวัด และสมาชิกที่เกี่ยวข้อง ก่อนที่จะประมวลและส่งให้ทางคณะกรรมการบริหารพรรคลงมติเห็นชอบ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image