รวบ 2 โจรโจ๋อุกอาจกลางกรุงควบจยย. ควงปืนอัดลมข่มขู่ตระเวนชิงทรัพย์ ก่อเหตุนับไม่ถ้วน

เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. ได้รับรายงานผลการจับกุมคดีจาก พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.2 ว่า พ.ต.อ.คณบดี เลิศอมรศักดิ์ ผกก.สส.บก.น.2 พ.ต.ท.ชัยรัตน์ หิรัญบูรณะ, พ.ต.ท.นิคม ศรเหล็ก พ.ต.ท.อัครพล โทยะ รอง ผกก.สส.บก.น.2 และ พ.ต.ต.พร้อมพงษ์ เทพทัพทิม สว.สส.บก.น.2 ร่วมกันนำกำลังตำรวจ กก.สส.บก.น.2 จับกุมตัวนายเอกนรินทร์ หรือแจ้ สุขทรัพย์ อายุ 34 ปี และนายนิธาน หรือโม พรมยะมาตร์ 20 ปี ผู้ต้องหาตระเวนชิงทรัพย์ พร้อมของกลางเสื้อผ้าหมวกกันน๊อกที่ใช้ก่อเหตุ และอาวุธปืนผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นปืนอัดลม เมื่อทราบว่าตำรวจตามตัวจึงได้โยนทิ้งบ่อน้ำไป โดยสามารถจับกุมได้บริเวณกลางซอยสุขาภิบาล 5 ซอย32 แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร

สืบเนื่องจากตลอดช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา มีผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์กับทางตำรวจ ว่ามีคนร้ายออกอาละวาดใช้อาวุธปืนตระเวนชิงทรัพย์ในพื้นที่กรุงเทพฯ หลายท้องที่ ต่อเนื่องกันหลายครั้ง ทางตำรวจ กก.สส.บก.น.2 จึงทำการสืบสวนหาเบาะแสจนทราบกลุ่มคนร้าย ต่อมาสืบทราบว่าคนร้ายได้มาปรากฎตัวอยู่ภายในที่เกิดเหตุซึ่งเป็นสถานที่จับกุม จึงนำกำลังไปตรวจสอบ พบนายนิธาน หรือโม ได้ไปขโมยรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน ฬรร 917 กรุงเทพมหานคร จึงได้ตรวจยึดส่ง สน.คันนายาว ส่งนผู้ต้องหาทั้งสองรายนำตัวสอบสวนที่ กก.สส.บก.น.2

สอบสวน ผู้ต้องหาทั้งสองราย ให้การยอมรับสารภาพ ว่าเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 05.30 น. พวกตนได้ใช้จักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟสีแดง ไปชิงทรัพย์ที่ ซอยสุคนธสวัสดิ์ 1 แขวง ลาดพร้าว เขตลาดพร้าว พื้นที่ สน.โชคชัย โดยนายนิธานใช้อาวุธปืนอัดลมข่มขู่ จากนั้นได้กระตุกสร้อยผู้เสียหาย ส่วนนายเอกนรินทร์เป็นคนข่มขู่ให้กลัว และเป็นผู้ขับขี่จักรยานยนต์ ได้สร้อยคอทองคำประมาณ 5 บาทมา โดยสร้อยอันดังกล่าวนายแจ้เป็นผู้เก็บไปไม่ได้แบ่งให้นายโม

นอกจากนี้ยังสอบพบประวัติก่อเหตุของคนร้ายอีกหลายพื้นที่ในวันถัดๆ มา ซึ่งมีผู้เสียหายอีกหลายราย

อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อต่อคำให้การของคนร้าย จึงต้องทำการสอบสวนขยายผลอีกครั้ง โดยเชื่อว่าคนร้ายกลุ่มนี้ก่อเหตุมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน หากมีผู้เสียหายรายใดถูกคยร้ายก่อเหตุลักษณะดังกล่าวสามารถติดต่อทางตำรวจได้ทันที เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ ร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีหรือใช้อาวุธปืนและโดยใช้ยานพาหนะเพื่อพาทรัพย์นั้นไป และครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันควร ” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image