ปัดศึกสายเลือด 2 อา-หลานครอบครัวพรพฤฒิพันธ์ ปมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เพชรบูรณ์

วันที่ 5 ธันวาคม น.ส.พิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์ หรือ”ปอย” ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) และรองประธานสภา อบจ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า ในการตัดสินใจก้าวสู่สนามการเมืองระดับชาติในครั้งนี้ สาเหตุหลักเนื่องจากคุณอา(วิจิตร พรพฤฒิพันธุ์ อดีต ส.ส.เพชรบูรณ์ พรรคชาติไทยพัฒนา) ตอบปฏิเสธการทาบทามจากพรรคพลังประชารัฐ โดยยืนยันขออยู่กับพรรคชาติไทย
พัฒนา(ชพท.)ต่อไป แต่ด้วยความที่ผู้ใหญ่ในพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ซึ่งคุ้นเคยกับครอบครัวพรพฤฒิพันธุ์มานาน ที่สำคัญยังให้ความไว้วางใจ อยากให้คนในครอบครัวพรพฤฒิพันธุ์เข้าไปร่วมทำงานการเมืองด้วยกัน ทางครอบครัวจึงตัดสินใจให้ปอยเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐดังกล่าว

น.ส.พิมพ์พรกล่าวว่า ส่วนตัวปอยค่อนข้างคุ้นเคยกับสนามการเมืองมานาน เพราะได้เห็นครอบครัวไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อและอาหลายๆท่าน รวมทั้งอดีตส.ส.วิจิตรและพี่ชาย(นายอภิวุฒิ พรพฤฒิพันธุ์ หรือเสี่ยเอด อดีตรองนายกอบจ.เพชรบูรณ์ เสียชีวิตแล้ว) ซึ่งคลุกคลีอยู่ในสนามการเมืองมานาน จนทำให้ซึมซับความเป็นนักการเมืองมาตั้งแต่ยังเด็ก โดยเฉพาะคุณพ่อและพี่ชายซึ่งดึงตนเข้ามาสู่แวดวงการเมืองระดับจังหวัด อย่างไรก็ตามเมื่อปอยได้รับโอกาสเช่นนี้ รวมทั้งได้รับความไว้วางใจจากผู้ใหญ่ในพรรค พปชร. และ
ทางทีมงานก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด

น.ส.พิมพ์พร กล่าวว่า ส่วนที่มีมุมมองจากคนทั่วไปว่าเลือกตั้งส.ส.ครั้งนี้จะเป็นศึกสายเลือด ระหว่างอากับหลานในครอบครัวพรพฤฒิพันธุ์นั้น ในมุมมองของปอยคงไม่ใช่ศึกสายเลือดแต่อย่างใด เพราะก่อนที่ปอยจะตัดสินใจสมัครเป็นสมาชิกและสวมเสื้อพรรค พปชร.นั้น ก็มีการพูดคุยหารือกันในครอบครัวพรพฤฒิพันธุ์กันจนตกผนึกแล้ว เพราะทุกคนต่างก็เกรงจะมีผลกระทบถึงความผูกพันและสายสัมพันธ์กันในครอบครัว กระทั่งเกิดความเข้าใจกันดีถึงความจำเป็นต่างๆ จนได้ข้อสรุปแม้เราอาจจะเห็นแตกต่างกันแต่ก็ไม่ใช่ความขัดแย้ง ที่สำคัญสายสัมพันธ์ในความเป็นสายเลือดเดียวกันก็ไม่มีอะไรมาแปรเปลี่ยนได้

น.ส.พิมพ์พรกล่าวว่า สำหรับการก้าวลงสนามการเมืองระดับชาติครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในชีวิต ส่วนคำถามทำไมถึงต้องเป็นพรรค.พปชร. ในมุมมองของตนเชื่อว่าด้วยศักยภาพของพรรค พปชร.แล้ว น่าจะทำให้การขับเคลื่อนทั้งการพัฒนาประเทศและจังหวัดให้เดินหน้าต่อไปได้ ส่วนการลงพื้นที่แนะนำตัวยอมรับว่ามีความยากลำบากพอสมควร เพราะพื้นที่กว้างแถมมีการเปลี่ยนแปลงเขตเลือกตั้งใหม่ แต่ทั้งนี้โชคดีที่ชาวบ้านยังจดจำพี่ชาย(อภิวุฒิ)ได้เป็นอย่างดีแม้จะเสียชีวิตไปแล้วก็ตาม เพราะในช่วงที่พี่ชายยังมีชีวิตนอกจากจะ
มีอัธยาศัยและมิตรไมตรีที่ดีแล้ว ยังชอบช่วยเหลือชาวบ้านจนทำให้ทุกคนจดจำพี่ชายได้เป็นอย่างดี

Advertisement

“เมื่อปอยแนะนำตัวว่าเป็นน้องสาวอภิวุฒิหรือเสี่ยเอดชาวบ้านก็จะบ่นคิดถึง โดยชาวบ้านบางรายคิดถึงจนต้องดึงตนไปสวมกอดแทน นอกจากนี้ยังมีทีมงานที่แข็งแกร่งของพี่ชายที่คอยให้คำแนะนำและให้ความช่วยเหลือ จึงทำให้ปอยเกิดความมั่นใจมากขึ้น ที่สำคัญที่ผ่านมามีกระแสตอบรับค่อนข้างดีอีกด้วย”น.ส.พิมพ์พรกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image