นายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมไทยที่คาดว่าจะมีอัตราการขยายตัวสูง ในปี 2562 ได้แก่ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซตามยุคดิจิทัลที่สามารถเข้าถึงช่องทางออนไลน์มากขึ้น แต่มีความท้าทายจากเรื่องการจัดเก็บภาษี ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ ที่ขยายตัวต่อเนื่องและขยายตัวตามอีคอมเมิร์ซ ธุรกิจอุตสาหกรรมฐานชีวภาพ แต่ต้องให้ความสำคัญเรื่องสิทธิบัตรทางปัญญา ธุรกิจทางด้านสุขภาพและการรักษาพยาบาล ธุรกิจวัสดุก่อสร้างและรับเหมาก่อสร้างตามโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐที่ออกมา ธุรกิจเครื่องมืออุปกรณ์อัจริยะ หุ่นยนต์และเครื่องจักรอัตโนมัติ ที่เป็นเทรนด์ของโลก ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ธุรกิจฟินเทคและบริการทางการเงินด้วยเทคโนโลยี ธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจอาหารสุขภาพ อาหารสำเร็จรูป รวมทั้ง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่โครงการพัมนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ธุรกิจปิโตรเคมีและพลาสติก ส่วนธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตปานกลาง ได้แก่ อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ อุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ อุตสาหกรรมไฟฟ้าและส่วนประกอบ อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน เป็นต้น
นายอนุสรณ์ กล่าวว่า อุตสาหกรรมที่มีอัตราการเติบโตต่ำ ความเสี่ยงสูงและจะมีการเลิกจ้างพนักงาน ได้แก่ ธุรกิจทีวี มีวีดิจิทัล เคเบิลทีวีและสิ่งพิมพ์ ธุรกิจผลิตและจำหน่าย หรือการให้เช่าซีดี ดีวีดี ธุรกิจอุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยาง ปาล์มน้ำมัน ธุรกิจสถานศึกษาเอกชน ธุรกิจร้านค้าแบบดั้งเดิม ธุรกิจให้บริการโทรศัพท์พื้นฐานและร้านอินเตอร์เน็ต ธุรกิจหัตถกรรมและเฟอร์นิเจอร์ไม้ อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องหนัง เป็นต้น เนื่องจากธุรกิจเหล่านี้ได้รับผลกระทบจากการเข้าสู่ยุคเสณษบกิจดิจิทัล รวมทั้งผลกระทบจากสงครามการค้าจีนและสหรัฐที่ทำให้ซัพพลายเชนเปลี่ยนไป
