ไฟป่าฝีมือมนุษย์เกือบ 100% พบจุดความร้อนแล้ว 446 จุด ตั้งวอร์รูมจังหวัดคลอดมาตรการป้องกันเข้ม

เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม นายอรรถพล เจริญชันษา ว่าที่อธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ เกิดสถานการณ์ไฟป่าแล้ว โดยข้อมูลจากดาวเทียมในปี 2561 พบจุดความร้อน จำนวน 16,683 จุด และ ล่าสุดระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม ถึง 16 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา พบจุดความร้อนจำนวน 446 จุด ซึ่งมีความถี่ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2561 แม้จำนวนลดลง แต่กรมป่าไม้ไม่อาจนิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ดังกล่าว โดยจัดทำแผนการปฏิบัติงานด้านการป้องกันและแก้ไขควบคุมไฟป่าเพื่อบรรเทาปัญหาให้เกิดประสิทธิผลและประสิทธิภาพ พร้อมกำหนดเป็น 4 แนวทางสำคัญ ดังนี้ 1.ก่อนเกิดไฟป่า ช่วงปลายเดือน พฤศจิกายนถึง ธันวาคม เป็นต้นไป ก่อนถึงเดือน มกราคม ถึง กุมภาพันธ์ ต้องบริหารจัดการเชื้อเพลิง บริเวณใดเป็นพื้นที่เสี่ยงภัย พื้นที่สุ่มเสี่ยงต้องเข้าไปทำแนวกันไฟ บริเวณใดที่พบจะเกิดไฟป่าแน่นอน ต้องใช้วิธีชิงเผา เพื่อกักไฟบรรเทาความรุนแรงไฟป่าเมื่อจะเข้าสู่ช่วงไฟป่า ขณะเดียวกัน กรมป่าไม้ได้สนับสนุนงบประมาณในการดำเนินกิจกรรมป้องกันไฟป่า ชุมชนละ 50,000 บาท ปัจจุบันมีจำนวนราว 500 กว่าชุมชนทั่วประเทศ รวม 1,024 เครือข่าย ส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ทางภาคเหนือ

 

Advertisement

อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวต่อว่า 2.เมื่อเข้าสู่ช่วงไฟป่า จะต้องกำหนดพื้นที่ห้ามไม่ให้มีการเผาในแต่ละจังหวัด โดยประกาศการหยุดไม่ให้เผา เมื่อเผาจะผิดกฎหมาย พร้อมจัดตั้งวอร์รูม นำร่อง 3.ช่วงหลังไฟป่า หลังจากหมดห้วงการดับไฟป่าแล้วจะเป็นช่วงรอยต่อ ซึ่งแต่ละจังหวัดจะประกาศช่วงห้ามเผา ระหว่างนี้จะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากหลายปีที่ผ่านมาพบบทเรียนอันใหญ่หลวงจากการเผาพื้นที่พร้อมกัน ดังนั้น จะใช้วิธีการจัดระเบียบการเผา หมายถึงผู้ใดจะเผาต้องอยู่ในการควบคุมก่อนเพื่อไม่ให้เกิดหมอกควันและค่าฝุ่นละอองสูงเกินมาตราฐาน โดยการจัดระเบียบการเผาจะมีต้องทำก่อนและหลังห้ามการเผา และ 4.การประเมินสถานการณ์ กรมป่าไม้จะจัดทำรายงานเป็นประจำทุกปี เพื่อประเมินสถานการณ์ ปัญหาอุปสรรค เพื่อนำไปสู่การกำหนดแผนสำหรับปีต่อไป ส่วนพื้นที่เฝ้าระวังปีนี้ คือ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เนื่องจากที่ผ่านมาความถี่ไฟป่าค่อนข้างสูงและมีค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานมาก

 

Advertisement

 

“ฝากถึงทุกคนให้ช่วยตระหนักถึงผลกระทบจากไฟป่าที่เกิดขึ้น เนื่องจากพบสาเหตุหลักของการเกิดไฟป่ามาจากมนุษย์เกือบร้อยละ 100 ดังนั้น ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ที่เสี่ยง พื้นที่เฝ้าระวัง ไม่จุด เผาและให้ระมัดระวังไฟป่า โดยเฉพาะช่วงทำเกษตรกรรมที่ต้องการกำจัดวัชพืช การเผาตอซังข้าวโพด ตลอดจนการเก็บหาของป่า พร้อมขอความร่วมมือช่วยกันสอดส่อง หากพบเห็นผู้กระทำผิดหรือแจ้งเหตุไฟป่ารีบโทรแจ้งสายด่วน 1362 ศูนย์พิทักษ์ป่า อนึ่งถ้าร่วมกันแจ้งเหตุกันรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จะสามารถเข้าดับไฟป่าได้ทันที และจะสามารถควบคุมสถานการณ์เลวร้ายไฟฟ้าไว้ได้ ไม่เกิดรุกลาม เสียเงิน สิ้นเปลืองงบประมาณมาก” นายอรรถพล กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image