นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักวิเคราะห์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ที่ระดับ 32.73 บาทต่อดอลลาร์ ไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วงสิ้นวันทำการก่อน สำหรับคืนที่ผ่านมา ตลาดการเงินจับตาไปที่ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ซึ่งมีการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น 0.25% ไปที่ระดับ 2.25-2.50% ในคืนที่ผ่านมา พร้อมกันนี้เฟดได้ปรับประมาณการของดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐลงจากครั้งก่อนในเดือนกันยายน มาที่ระดับ 2.90% ในปี 2562 ตีความได้ว่าการขึ้นดอกเบี้ยอาจจะเกิดต่อเนื่องอีกเพียง “สองครั้ง” (ครั้งละ 0.25%) ในปี 2562 ขณะที่ภาพรวมดอกเบี้ยในปี 2563 ถึง 2564 อยู่ที่ระดับ 3.10% ซึ่งหมายความว่าการขึ้นดอกเบี้ยรอบนี้จะจบลงเมื่อ อยู่ที่ระดับ 3.25%
นายจิติพล กล่าวว่า ในส่วนของภาพรวมเศรษฐกิจ เฟดมีการปรับมุมมองเศรษฐกิจในปี 2561 และ 2562 ลงเล็กน้อยมาที่ 3.00% และ 2.30% ตามลำดับ ขณะที่การว่างงานในสหรัฐจะลดลงไปที่ระดับต่ำสุด 3.50% ในปี 2019 แต่เงินเฟ้อจะไม่เพิ่มขึ้นแรง และคาดว่าจะสูงขึ้นในกรอบ 1.90- 2.10% ในช่วงสามปีต่อจากนี้ ทั้งหมดสามารถตีความได้ว่า เฟดมีท่าทีที่ผ่อนคลายลง ทั้งนี้ นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ให้ความเห็นว่าดอกเบี้ยนโยบายพึ่งจะขึ้นมาถึงจุดที่ ไม่ได้ต่ำเกินไปแต่ก็ยังถือว่าไม่ได้สูงเกินไปเช่นกัน ตลาดจึงไม่สามารถตีความได้ว่าเฟดจะหยุดขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้แม้ตลาดการเงินจะผันผวน และดอกเบี้ยสหรัฐที่ระดับ 2.50% ถือเป็นแรงกดดันกับตลาดทุน ล่าสุดดัชนี S&P500 จึงปรับตัวลงถึง 1.5% ราคาทองปรับตัวลง 0.6% และบอนด์ยิลด์สหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลงถึง 5.6bps ไปที่ระดับ 2.76% ชี้ว่าทิศทางการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐผ่อนคลายลงกว่าการประชุมครั้งก่อน แต่ไม่ได้ผ่อนคลายเท่ากับที่ตลาดคาดหวังไว้
นายจิติพล กล่าวว่า ค่าเงินบาทคาดว่ามีโอกาสแกว่งตัวอ่อนค่าตามภูมิภาค เนื่องจากนักลงทุนเชื่อว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัว อีกทั้งการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยและเฟดขึ้นดอกเบี้ยพร้อมกันจึงทำให้ส่วนต่างของดอกเบี้ยยังอยู่ที่เดิม ในระยะต่อไป เชื่อว่าตลาดจะตัดสินค่าเงินด้วยภาพรวมตัวเลขเศรษฐกิจ แต่ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงจะเป็นบวกกับเศรษฐกิจเอเชียมากกว่าสหรัฐ มองกรอบค่าเงินบาทวันนี้ 32.65-32.75บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
