“สนธิรัตน์”หารือเลขาธิการอาเซียน สร้างความเชื่อมั่นไทยพร้อมเป็นประธานอาเซียนปี62

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังหารือกับ ดาโต๊ะ ปาดูกา ลิม จ็อก ฮอย เลขาธิการอาเซียน ในโอกาสเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อสนับสนุนการเป็นประธานอาเซียนของไทย ว่า ไทยได้ยืนยันความพร้อมในการเป็นประธานอาเซียนปี 2562 และแสดงบทบาทนำในการขับเคลื่อนอาเซียนให้ก้าวข้ามปัญหาอุปสรรคทางการค้า และรับมือความท้าทายต่างๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคตผ่านแนวคิด “ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน”

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ในการหารือครั้งนี้ ไทยแสดงความพร้อมการเป็นประธานอาเซียนในปีหน้า โดยกระทรวงพาณิชย์จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในระดับต่างๆถึง 9 การประชุม และแจ้งว่าไทยได้นำเสนอประเด็นด้านเศรษฐกิจที่จะให้สมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศร่วมกันขับเคลื่อนให้บรรลุผลสำเร็จในปี 2562 ภายใต้แนวคิด“ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน (Advancing Partnership for Sustainability)

ประกอบด้วย 3 ประเด็นคือ 1.ก้าวไปข้างหน้าสู่อนาคต 2. ส่งเสริมความเชื่อมโยง และ 3.สร้างความยั่งยืนในทุกมิติ รวม 12 ประเด็น อาทิ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อรับมือการปฏิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ 4 การส่งเสริมผู้ประกอบการขนาดเล็ก กลาง ย่อม ให้สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล การเชื่อมโยงระบบการแจ้งข้อมูลใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าผ่านอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียว หรือ ASEAN Single Window ให้ครบทั้ง 10 ประเทศ และการสรุปผลการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ให้ได้ในปี 2562 เป็นต้น ซึ่งสำนักเลขาธิการอาเซียน จะเป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุนการทำงานไทยในฐานะประธานอาเซียนปี 2562 และร่วมขับเคลื่อนการรวมตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียน ให้มีความก้าวหน้าเกิดประโยชน์ต่อประเทศสมาชิกอาเซียนโดยรวม

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เลขาธิการอาเซียนได้กล่าวชื่นชมที่ไทยในฐานะประธานอาเซียนให้ความสำคัญกับเรื่องเศรษฐกิจดิจิทัล และการเตรียมความพร้อมของอาเซียนสำหรับการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 โดยเฉพาะการเตรียมจัดสัมมนาครั้งใหญ่ของอาเซียนเรื่องการปฏิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ 4 ในวันที่ 14 มกราคม 2562 ณ กรุงเทพฯ จะช่วยสร้างความตระหนักแก่สมาชิกอาเซียนและเอกชนไทยเรื่องของ 4IR และเตรียมความพร้อมรองรับและใช้ประโยชน์จาก 4IR ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งจะช่วยลดช่องว่างของการพัฒนา นอกจากนี้ ยังเห็นพ้องกันว่าสถานการณ์ของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป การรวมตัวทางเศรษฐกิจให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นของอาเซียนจะช่วยให้สมาชิกอาเซียนฟันผ่าอุปสรรคในด้านต่างๆ ไปได้ ตลอดจนส่งเสริมความร่วมมือให้เกิดผลในทางปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะเรื่องการอำนวยความสะดวกทางการค้า และการส่งเสริมการลงทุนในภูมิภาค

Advertisement

“ทั้งสองฝ่ายยังหารือเกี่ยวกับความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) โดยเห็นพ้องกันว่าไทยในฐานะประธานอาเซียนต้องผลักดันอย่างเต็มกำลังเพื่อให้อาเซียนและคู่เจรจา 6 ประเทศสามารถสรุปการเจรจาได้ในปี 2562 ตามที่ผู้นำของ RCEP ประกาศไว้ ” นายสนธิรัตน์ กล่าว

เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว

Advertisement

เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image