อย่ามัวบิดเบี้ยว
เรียน บก.ฟอรั่ม ที่นับถือ
มติชนรายวันฉบับวันที่ 10 ธันวาคม 2561 หน้า 9 สองนักธุรกิจใหญ่จ่อไขก๊อกสภา ม.ร. เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2561 นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง (ม.ร.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กรรมการสภา 4-5 ราย แสดงความจำนงจะลาออก หรืออย่างกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นนักธุรกิจบางคน เช่นประธานกรรมการบริษัทโรงแรมชื่อดัง และรองประธานกรรมการบริษัทชื่้อดังเป็นนักธุรกิจคนสำคัญ และมีกิจการจำนวนมาก ได้แสดงความกังวลว่าการแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินนั้น เป็นภาระอย่างหนึ่ง
ก่อนอื่นเรามาดูเจตนารมณ์ของกฎหมายก่อนว่า สนช.ออกกฎหมายมาต้องการประสงค์สิ่งใด ในเมื่อต้องการจะปราบปรามทุจริตคอร์รัปชั่น มันก็เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ทุกคนต้องการอยู่แล้ว เราจะมากังวลใจอะไรกันอยู่มิทราบ ประการต่อมายังเป็นงงอยู่ว่า การที่มหาวิทยาลัยต่างๆ เชื้อเชิญนักธุรกิจต่างๆ เข้ามาเป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยเพื่อต้องการสิ่งใด? ขอเดาว่าต้องการให้นักธุรกิจอุดหนุนมหาวิทยาลัยในกิจกรรมต่างๆ เรื่องนี้ผมเคยออกความเห็นไปแล้วว่า ถ้าเศรษฐี Top 10-Top 20 ของประเทศไทยพากันเจียดเงินกำไรปีละ 0.11% นำเงินเศษที่เหลือมาช่วยเหลือการศึกษา สาธารณสุข คนยากคนจนในถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกลความเจริญ คิดว่าน่าจะดีมีประโยชน์กว่ามาเป็นกรรมการสภาตรายางให้สภามหาวิทยาลัยเยอะเลย
กฎหมายเมื่อออกมาแล้วทุกคนจะต้องปฏิบัติตาม ข้อสำคัญผู้ยังใช้กฎหมายต้องปฏิบัติหน้าที่กันอย่างเคร่งครัด อย่ามามัวบิดเบี้ยวกันอยู่เลย ซึ่งเรายังไม่รู้ว่าจะเกิดผลดีผลเสียอย่างไร เอาเป็นว่า สนช.ทั้งสภาท่านคงคิดดีแล้ว ไหนๆ กฎหมายก็ออกมาแล้วอยากให้รื้อตำแหน่งกรรมการกระทรวง ทบวง กรม และรัฐวิสาหกิจต่างๆ บางท่านเป็นประธานกรรมการ (ไม่เคยเข้าประชุม) ถึงเดือนก็มีคนเอาเบี้ยประชุมมาประเคนให้ เป็นการกีดกันคนอื่น เสียเงินงบประมาณโดยไม่มีความจำเป็น
ขอสรุปว่า พลเมืองไทย 70 ล้านคน จะหากรรมการสภาได้ไม่ยาก อนาคตจะดีหรือไม่ดียังไม่มีใครรู้ เหมือนเลือกตั้งกำลังจะเกิดขึ้น รัฐธรรมนูญ (ย้อนยุค) กติกาการเมืองที่ถูกออกแบบมาเพื่อ “พวกเรา” ยังไม่รู้ว่าจะเป็นหมู่หรือจ่า
นับถือ
ไพฑูรย์
ตอบ คุณไพฑูรย์
เหตุผลที่บรรดาผู้มีตำแหน่งในระเบียบจะไม่แสดงทรัพย์สินก็ประเด็นหนึ่ง การออกระเบียบมาแล้วปฏิบัติไม่ได้ ต้องไปหาทางลงกันวุ่นวายก็เป็นอีกปัญหาหนึ่ง
เป็นบทเรียนว่า ต่อไปนี้จะออกกฎหมาย ออกระเบียบ ต้องรอบคอบ รับฟังเสียงสะท้อนให้รอบด้าน ไม่อย่างนั้นจะกระทบต่อภาพความพยายามปราบปรามและป้องกันคอร์รัปชั่นของรัฐบาลเองครับ
ที่ผ่านมา หลายเรื่องที่เกิดขึ้น สะท้อนว่า เอาเข้าจริง คนที่ไม่ยอมรับการตรวจสอบ ไม่ใช่เฉพาะนักการเมืองเท่านั้นครับ บรรดาผู้ที่ส่งเสียงเรียกร้องให้ตรวจสอบคนอื่นก็มีปัญหาของตัวเองเหมือนกัน
เสนอแนะ
เรียน บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน)
ยาเสพติดเป็นปัญหาต้นเหตุไปสู่คดีต่างๆ เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ ผมอยากให้ท่านเป็นสื่อกลางประสานงานแก้ไขปัญหายาเสพติดดังนี้ครับ
1) การจับยาเสพติดล็อตใหญ่ๆ ถ้าเป็นไปได้ ควรเผายาเสพติดตรงนั้นเลยต่อหน้าสื่อมวลชนที่ไปทำข่าว ไม่ต้องเก็บไว้ ให้ตัดไฟแต่ต้นลมเพราะถ้าเก็บไว้ของกลางจะหาย
2) ถ้าไม่สามารถเผาทำลายตรงที่จับยาเสพติดได้ ให้บังคับถ่ายทอดสดการเผาทำลายยาเสพติดให้ประชาชนและสื่อมวลชนได้เห็นซึ่งเป็นสิ่งที่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง ทุกคนจะได้มั่นใจว่าของกลางยาเสพติดซึ่งเป็นภัยสังคม จะไม่หลุดรอดออกมาอีก เพราะตามข่าวหลายๆ ข่าวที่ออกมา ท่านก็เห็นแล้วว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจบางคน นอกรีต มียาเสพติดไปยัดประชาชนเพื่อรีดไถเงิน ทั้งๆ ที่ต้องเอายาเสพติดที่จับได้ส่งเผา กลับมียาเสพติดเสียเองครับ
การถ่ายทอดสด การเผายาเสพติด ต้องบังคับให้มีการนับจำนวนยาเสพติดและตรวจสอบยาเสพติดว่าเป็นของจริงหรือไม่ แล้วเข้าเตาเผาทำลายเลยครับ
ขอแสดงความนับถือ
ผู้อ่าน
ตอบ คุณผู้อ่าน
นี่คือความห่วงใยของประชาชนต่อปัญหายาเสพติดครับ จึงพยายามเสนอแนะวิธีการต่างๆ มา ฝากไว้ให้ผู้มีหน้าที่ได้พิจารณาด้วยครับ
ยังเดือดร้อน
เรียน ท่านบรรณาธิการ
ผมเป็นเกษตรกรผู้เพาะปลูกใบยาสูบคนหนึ่งที่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลท่านนายกฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงขอเป็นตัวแทนของพี่น้องเกษตรกรชาวไร่ยาสูบกว่า 1.4 หมื่นคน ที่ได้รับความช่วยเหลือในครั้งนี้ กราบขอบพระคุณท่านนายกรัฐมนตรีที่ให้ความเห็นชอบมาตรการให้ความช่วยเหลือชาวไร่ยาสูบในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา
มาตรการเงินช่วยเหลือนี้ช่วยบรรเทาปัญหาเฉพาะหน้าจากการโดนลดโควต้ารับซื้อใบยาฤดูกาลนี้ได้เท่านั้น เพราะปัญหาการลดการรับซื้อใบยาของการยาสูบประเทศไทยเกิดจากการขึ้นอัตราภาษีบุหรี่จนสูงเกินไป หากกระทรวงการคลังและกรมสรรพสามิตยังยืนยันที่จะปรับเพิ่มภาษีบุหรี่อัตรา 40% ในตุลาคมปี 2562 ทั้งๆ ที่ก็เห็นอยู่ว่าพวกเราชาวไร่ยาสูบได้รับผลกระทบขนาดไหน แถมกระทรวงสาธารณสุขยังคงดันทุรังเดินหน้าเสนอกฎหมายเก็บภาษีบุหรี่เพิ่มอีก 2 บาท เพื่อช่วยเหลือกองทุนบัตรทอง โดยไม่ฟังเสียงท้วงติงจากหลายฝ่ายในเรื่องการขัด พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ และการเลือกปฏิบัติละเว้นไม่เก็บเงินสมทบจากเหล้าและเบียร์ หรือแม้แต่ยาเส้นมวนเองก็ตาม
หากมีการขึ้นภาษีบุหรี่หรือรัฐบาลจะเก็บเงินสมทบจากบุหรี่ จะทำให้ราคาบุหรี่สูงขึ้นครั้งใหญ่อีกระลอก จนกระทบยอดขายของการยาสูบฯ อย่างหนักแน่นอน พวกเราชาวไร่ก็คงไม่ได้ปลูกใบยาสูบไปอีกหลายปี
ที่ผ่านมาการทำไร่ยาสูบเป็นอาชีพที่มั่นคงและพวกเราชาวไร่ไม่เคยต้องได้รับความช่วยเหลือใดๆ จากรัฐบาล แต่การขึ้นภาษียาสูบติดๆ กันมาตลอด กำลังสร้างปัญหากับพวกเราชาวไร่ยาสูบอย่างมาก เราเข้าใจความหวังดีของท่านที่ต้องการให้เราหันไปปลูกพืชทดแทน แต่ที่ข้อเสนอนี้มีการพูดคุยกันมาโดยตลอด แต่ก็ไม่มีทางออกอย่างเป็นรูปธรรมเสียที
พวกเราอยากเห็นรัฐบาลมีความจริงใจในการแก้ปัญหา หากรัฐบาลและรัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐ ยังไม่ชะลอการเก็บภาษีบุหรี่เพิ่ม พวกเราชาวไร่ยาสูบและครอบครัวกว่า 2 แสนคน ซึ่งถือเป็นฐานเสียงที่สำคัญในจังหวัดภาคอีสาน ภาคเหนือ และจังหวัดเพชรบูรณ์-สุโขทัย คงไม่สามารถหวังพึ่งผู้แทนของพรรคพลัง ประชารัฐได้
ปรีชา
ตอบ คุณปรีชา
เห็นกลุ่มสามมิตรออกมาเคลื่อนไหวแก้ปัญหาอยู่พักหนึ่ง แต่การขึ้นภาษีบุหรี่ส่งผลมาก ฐานเสียงใคร ต้องรีบเข้ามาดูแลแล้วล่ะครับ
