เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 23 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิ์ในการขึ้นทะเบียนเข้าร่วมโครงการบ้านล้านหลัง ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ธอส. รับผิดชอบในการดำเนินงานตามโครงการดังกล่าว โดยกำหนดให้มีการลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิ์พร้อมกันทั่วทั้งประเทศตลอดทั้งวันในวันนี้
สำหรับบรรยากาศบริเวณด้านหน้า ธอส.สาขาขอนแก่น ถ.ศรีจันทร์ เขตเทศบาลนครขอนแก่นพบว่ามีประชาชนจำนวนมาก ทยอยกันมายืนรอต่อแถวและเข้ารับบัตรคิวตามระบบขั้นตอนที่ทางเจ้าหน้าที่ ธอส.กำหนด โดยพบว่าผู้ที่มาลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิ์ตามโครงการดังกล่าวนั้นมาตั้งแต่เวลา 04.00 น. ซึ่งเดินทางมาจาก อ.หนองสองห้อง ที่มีระยะทางกว่า 100 กม.
น.ส.หทัยทิพย์ นาหนอง อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 ม.17 ต.หนองสองห้อง อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ครอบครัวต้องการมีบ้านเป็นของตนเอง โดยปัจจุบันประกอบธุรกิจค้าขายออนไลน์ ซึ่งทันทีที่รัฐบาลประกาศโครงการดังกล่าวจึงเริ่มศึกษาข้อมูลและเตรียมเอกสารหลักฐานต่างๆมาเพื่อลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิ์ ก่อนพากันเดินทางออกจาก อ.หนองสองห้อง และมาถึง ธอส.ขอนแก่น เป็นคนแรกในเวลา 04.00 น. และขณะนี้ได้ทำการลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมโครงการแล้ว
นายวิกิจชัย แซ่เจีย ผู้จัดการ ธอส.สาขาขอนแก่น กล่าวว่า การดำเนินงานตามโครงการดังกล่าวพร้อมกันทั่วทั้งประเทศ ของ ธอส.ยอมรับว่าเกินคาด ซึ่งที่ ธอส.ขอนแก่น เป็น 1 ในสถานที่ที่ ธอส.กำหนดเป็นจุดจองคิวและลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการนั้นมีประชาชนชาวขอนแก่นมาใช้บริการเกินคาด ซึ่งเดิม ธอส.ขอนแก่น ประมาณการไว้ที่ 500 ราย แต่เพียงการเปิดจองคิวได้เพียง 2 ชม. คิวจองอยู่ที่ 700 ราย
“การให้บริการของ ธอส.ตลอดทั้งวันในวันนี้ไปจนถึงเวลา 17.00 น.ยังคงไม่พบปัญหาใดๆเกิดขึ้น ทุกคนที่มาลงทะเบียนจะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการในวงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อคนต่อสิทธิ์ สำหรับการนำเงินไปซื้อหรือปลูกสร้างบ้าน ทั้งนี้เมื่อผ่านขั้นตอนของการลงทะเบียนไปแล้วทุกคนจะต้องตรวจสอบคุณสมบัติและการส่งเอกสารหลักฐานต่างๆตามระเบียบของ ธอส.และระเบียบของโครงการ ตามที่รัฐบาลกำหนด”
นายวิกิจชัย กล่าวต่ออีกว่า ธอส. ได้กำหนดแผนงานประชาสัมพันธ์เพื่อเชิญชวนให้ทุกคนนั้นเข้าร่วมโครงการ ทั้งการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อประเภทต่างและการลงเดินตลาดพบปะประชาชนในการเชิญชวนให้มาร่วมโครงการ ซึ่งพบว่าเช้าวันนี้มีประชาชนที่ต้องการมีบ้านเป็นของตนเองเดินทางมาลงทะเบียนและสอบถามข้อมูลอย่างต่อเนื่องอย่างหลากหลาย ทุกเพศ ทุกวัย และที่สำคัญจะพบว่ากลุ่มวัยรุ่น กลุ่มคนมีงานทำ หรือกลุ่มที่เพิ่งสำเร็จการศึกษา หรือกลุ่มธุรกิจส่วนตัว ที่มีอายุตามเกณฑ์ที่เข้าร่วมโครงการได้ ให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างมาก ซึ่งจัดเป็นมิติใหม่ของกลุ่มลูกค้าที่พบว่าคนรุ่นใหม่เริ่มอยากมีบ้านเป็นของตนเองมากยิ่งขึ้น
