เมื่อวันที่ 8 มกราคม นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า กรณีที่เกิดเหตุการณ์ทุจริตต่างๆ ของสถาบันการเงิน ตามปกติสถาบันการเงินจะมีกระบวนการภายในเพื่อดำเนินการสอบสวนเรื่องทุจริต และมีบทลงโทษอยู่แล้ว ในส่วนของ ธปท. จะให้ความสำคัญต่อผลการสอบสวนและสาเหตุที่ทำให้เกิดการทุจริต และการดำเนินการแก้ไขที่ต้นเหตุของปัญหา เพื่อป้องกันมิให้เหตุการณ์เกิดขึ้นอีก รวมถึงเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรเพื่อให้ความสำคัญต่อการดูแลลูกค้าของสถาบันการเงิน อย่างไรก็ตาม หาก ธปท. ตรวจสอบพบการทุจริตจะมีการออกคำสั่งให้สถาบันการเงินดำเนินการต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมาเคยเกิดกรณีที่พนักงานของสถาบันการเงินหลายสถาบันการเงินมีการทุจริต ยักยอกเงินลูกค้า หรือการกระทำธุรกรรมแทนลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุที่มักจะเป็นเป้าหมาย ล่าสุดคือกรณีที่นายกุนฑล ลิมป์ชยานนท์ ได้โพสต์ข้อความในเฟสบุค ว่าเงินในบัญชีของมารดาที่ฝากไว้กับธนาคารแห่งหนึ่งในอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน หายไปจากบัญชีจำนวน 290,000 บาท โดยที่มารดาไม่ได้ทำรายการนั้น ภายหลังทราบว่าเป็นธนาคารกรุงไทยซึ่งได้มีการส่งเจ้าหน้าที่จากสำนักงานใหญ่ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งพบว่าลูกค้าไม่ได้เป็นผู้ทำรายการ และธนาคารได้นำเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยเข้าบัญชีลูกค้าเรียบร้อยแล้วทั้งนี้ได้กำชับผู้จัดการสาขาทั่วประเทศให้ดูแลพนักงานอย่างใกล้ชิด และให้ยึดหลักการให้บริการลูกค้าอย่างมีธรรมาภิบาลในการให้บริการลูกค้าอย่างเคร่งครัด รวมทั้งมีมาตรการลงโทษผู้ที่ไม่ปฎิบัติตาม
