เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 10 มกราคม ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) ขึ้นเวลาแถลงข่าวประกาศผ่านไมโครโฟนก่อนการแถลงข่าวเรื่องกวาดล้างชาวต่างชาติทำผิดกฎหมาย ต่อหน้าสื่อมวลชนจำนวนมาก โดยพูดอย่างมีอารมณ์ให้ตำรวจหลายนายที่มาในวันนี้ หลาย ๆ นาย กลับไปทำงาน โดยไม่ต้องมาตามตนเอง ทั้งนี้ในบริเวณห้องแถลงข่าวมีตำรวจจากหลายหน่วยจำนวนมาก มารอพบหน้า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์
“คนที่ไม่เกี่ยวข้องนิมนต์ให้กลับไปทำงาน ซึ่งทุกคนควรจะรู้ว่าผมกับสื่อมวลชนทำงานด้วยกันมาโดยตลอด จึงเกรงว่าอาจจะทำให้กระทบภาพลักษณ์การทำงานของสตม.” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าว
ผบช.สตม. กล่าวภายหลังการแถลงข่าว กรณีที่ตนเองประกาศออกที่โต๊ะแถลงให้ตำรวจที่มาในวันนี้หลาย ๆ คนให้กลับไปทำงาน ไม่ต้องมาตามตนเองว่า ตนเองเข้าใจว่าลูกน้องต้องการให้ผู้บังคับบัญชาเห็นหน้า แต่ตนเองอยากให้ลูกน้องไปอยู่ในพื้นที่ทำงาน อยู่ที่ด่านตรวจต่างๆ ตามสถานที่ท่องเที่ยวให้กลับไปบริการประชาชน แต่หากมีหน้าที่จำเป็นต้องเข้ามาสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองก็เข้ามา แต่หากไม่มีหน้าที่ก็อยู่ประจำหน่วยประจำจุดของตนเอง ขนาดตนเองเป็นผู้บัญชาการ ตนเองยังต้องปฏิบัติงานเลย และตนเองทราบดีว่าลูกน้องคนไหนปฏิบัติงานเป็นอย่างไร
ผบช.สตม.กล่าวว่า ส่วนตำรวจที่มีการพยายามวิ่งเต้นเข้ามาหาตนเองเพื่อขอย้ายตำแหน่งนั้น ตนเองยอมรับว่ามีตำรวจนอกหน่วยติดต่อมาบ้างเพราะตนรับผิดชอบดูแลศูนย์ปราบปรามฯ และทำงานใกล้ชิดกับผู้หลักผู้ใหญ่ แต่ในปัจจุบันต้องเอาเรื่องการทำงานมาเอาใจผู้ใหญ่ เพราะที่พวกเรามีผลงานออกมาจำนวนมากเพราะพวกเราเป็นคนทำงาน เราทำงานโดยอาศัยอำนาจบารมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีมาช่วยดำเนินการในการทำงานให้เร็วขึ้น เราจึงจำเป็นต้องมีคนมาช่วยทำงานเยอะขึ้น
“ขอย้ำว่าคนทำงานดีคนทำงานเก่ง ไม่จำเป็นต้องวิ่งเต้นเรื่องตำแหน่ง ผมเห็นเอง ทราบเอง และยืนยันว่าผมไม่ใช่ศูนย์รวมอำนาจที่ในช่วงการแต่งตั้งต่างๆ จึงต้องจำเป็นมาวิ่งเต้นเข้าผมเพื่อให้ช่วยดำเนินการ ซึ่งเขาอาจจะเห็นว่าผมทำงานใกล้ชิดรองนายกฯประวิตร มีโอกาสเสนอผลงานได้ และผมก็มีโอกาสนำเสนอผลงานท่านอยู่เสมออยู่แล้ว แต่ทุกอย่างเรื่องการแต่งตั้งนั้นก็เป็นดุลพินิจของท่านเอง และเรื่องการทำงานของตำรวจประชาชนเป็นผู้ตัดสินเองอยู่แล้วว่าใครทำงาน” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าว
